Comfort zone พื้นที่สำคัญที่ใครหลายคนใช้เป็นที่พักพิงทางใจในวันที่รู้สึกระอากับโลกภายนอกและผู้คนรอบกาย นอกจากปัจจัยภายในซึ่งก็คือสภาวะอารมณ์ของเราแล้ว ปัจจัยภายนอกอย่างสถานการณ์ที่เราประสบพบเจอในชีวิตประจำวัน ก็มีส่วนทำให้ Comfort zone กลายเป็นพื้นที่ที่เข้าแล้วออกยาก จนเกิดปัญหามูฟออนเป็นวงกลม ไม่กล้าก้าวออกจากพื้นที่ปลอดภัยของตัวเอง และนั่นก็เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ชีวิตหลายคนติดอยู่กับที่ มิอาจก้าวหน้าไปได้ไกลดังที่ใจหวัง
เนื่องในโอกาสที่วันเวลากำลังจะผันผ่านสู่ปีใหม่อีกครา UndubZapp ขอชวนเพื่อนๆ ทุกคนที่กำลังติดอยู่ใน Comfort zone มาโบกมือลาพื้นที่ปลอดภัย ฝึกผลักดันตัวเองไปข้างหน้า เพื่อก้าวสู่ชีวิตที่ดีกว่ากันค่ะ เคล็ดลับง่ายๆ สำหรับการก้าวออกจาก Comfort zone จะมีอะไรบ้างนั้น ไปติดตามกันค่ะ!
1.ทดลองทำสิ่งใหม่ๆ
เริ่มต้นวางแผนออกจาก Comfort zone ทีละนิด ด้วยการทดลองทำสิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ ซึ่งสิ่งใหม่ๆ ที่ว่านี้มิได้จำกัดว่าจะต้องเป็นสิ่งที่ฉีกจากกิจกรรมเดิมในชีวิตประจำวันของคุณไปโดยสิ้นเชิงเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังหมายถึงการทดลองทำกิจกรรมที่คุณคุ้นเคยด้วยวิธีการแปลกใหม่ดูบ้าง
ยกตัวอย่างเช่น จากเดิมทีที่เคยสั่งอาหารเดลิเวอรี่ หรือกินข้าวนอกบ้านมาโดยตลอด ลองเปลี่ยนมาทำอาหารรับประทานเองดูบ้าง หรือจากเดิมทีที่ไม่เคยทำงานอดิเรกอะไรเลย แค่นอนเล่นอยู่กับบ้านเฉยๆ ลองลุกขึ้นมาประดิษฐ์ประดอยดูสักตั้ง วิธีการดังกล่าวอาจฟังดูเหมือนไม่มีอะไร แต่แท้ที่จริงแล้ว การฝึกจิตใจให้พร้อมรับมือกับสิ่งใหม่ๆ ในชีวิตอยู่เสมอ ถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการก้าวออกจากพื้นที่ปลอดภัยของตนเอง
2.ตั้งเป้าหมายเล็กๆ
สาเหตุหลักที่ทำให้หลายคนติดอยู่ใน Comfort zone นั้น เป็นเพราะพวกเขาตั้งเป้าหมายไว้ใหญ่เกินตัว อันที่จริงแล้ว การมีเป้าหมายใหญ่มิใช่เรื่องผิดแต่อย่างใด แถมบางครั้งยังใช้เป็นแรงผลักดันในการทำงานได้อีกต่างหาก ถ้าลองเปรียบเทียบเป้าหมายใหญ่กับการเดินทาง ติ๊ต่างว่าเป้าหมายใหญ่นี้มีเส้นทางเท่ากับการเดินทางจากเชียงใหม่ไปภูเก็ต กำหนดเงื่อนไขให้เดินทางได้เฉพาะทางรถเท่านั้น เป้าหมายเช่นนี้อาจทำให้หลายคนท้อแท้ตั้งแต่ยังไม่เริ่มออกเดินทาง
Advertisements
ดังนั้น แทนที่จะตั้งเป้าหมายใหญ่เบิ้ม ลองเริ่มต้นจากการตั้งเป้าหมายเล็กๆ ก่อน เช่น เดินทางจากเชียงใหม่ไปลำพูน หรือกำหนดเป้าหมายที่ต้องทำในแต่ละวันดู เปลี่ยนจากการใช้ Yearly planner มาใช้ Daily planner แทน เพราะเป้าหมายเล็กๆ ช่วยให้เรารู้สึกว่าความเป็นไปได้ที่จะประสบความสำเร็จมีมากกว่า ทำให้เรากล้าที่จะลองก้าวขาออกจากพื้นที่ปลอดภัยของตัวเองนั่นเอง
3.ขจัดความกลัวออกจากใจ
หลังจากที่ตั้งเป้าหมายให้กับชีวิตได้แล้ว สิ่งสำคัญลำดับถัดมาคือการขจัดความกลัวออกจากใจให้หมดสิ้น เพราะความกลัวนี่แหละที่ทำให้หลายคนไม่กล้าก้าวออกจาก Comfort zone ของตัวเอง บ้างก็กลัวว่าจะไม่ประสบความสำเร็จดังที่หวัง บ้างก็กลัวว่าวิธีการพุ่งชนเป้าหมายของตนจะไม่ถูกต้อง บ้างก็กลัวว่าจะอับอายขายหน้าคนอื่น หากคำว่า “กลัว” เป็นตัวผลักดันที่ทำให้คุณไม่กล้าใช้กุญแจเปิดประตูตรงหน้า ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องคิดอะไรเยอะ โยนคำว่ากลัวทิ้งถังขยะไปเลย จากนั้นลองหากุญแจไขประตูที่ว่าไปเรื่อยๆ
ถ้ากุญแจที่คุณหยิบมาไม่ใช่ดอกที่ถูกต้อง คิดเสียว่าอย่างน้อยคุณก็ได้เรียนรู้จากประสบการณ์ของตนเองแล้วว่ากุญแจดอกนี้ไขไม่ได้ คุณก็แค่ลองกุญแจดอกถัดไป ไม่มีใครบอกคุณได้ว่าคุณต้องใช้เวลาเท่าไหร่ในการค้นหากุญแจที่ถูกต้อง แต่ถ้าคุณได้ขจัดความกลัวออกไป และลงมือทำบางสิ่งบางอย่างจริงๆ จังๆ นั่นก็เท่ากับว่าเปอร์เซ็นต์ที่คุณจะประสบความสำเร็จไม่มีทางเป็นศูนย์ไปได้ ถ้าคุณพยายามต่อไปเรื่อยๆ คุณจะต้องหากุญแจดอกนั้นพบ และไขประตูที่อยู่ตรงหน้าคุณได้สำเร็จ ไม่ว่าวันใดก็วันหนึ่งอย่างแน่นอน
Featured image ©unsplash.com
Advertisements