น่าเอาอย่าง!! 4 ดาราชายรุ่นใหม่ สนใจใฝ่ธรรมะ ตั้งแต่อายุยังน้อย

แม่บ้านแซ่บ!! “สาจ๋า” วางไม้ถูพื้น นุ่งวันพีชประชัน “แพร วทานิกา”

1. เจมส์ มาร์

เริ่มที่ตี๋หล่ออย่าง หนุ่มเจมส์ มาร์ เป็นหนึ่งในดารา ที่นำหลักธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนาไปใช้ในชีวิตประจำวันค่อนข้างเยอะ ไม่ว่าจะเป็น การฝึกสมาธินำมาใช้กับการเรียน หรือการดับทุกข์ด้วยธรรมะ ที่ เจมส์ บอกว่าปัญหาสามารถเบาลงได้ ทั้งนี้ก็เพราะคุณพ่อปลูกฝังตั้งแต่เด็กตอนอยู่ฮ่องกงแล้ว นอกจากเข้าวัดเป็นประจำ ก่อนนอนก็จะฝึกให้ผมสวดมนต์จนเป็นนิสัย รู้สึกตัวอีกทีธรรมะก็อยู่ในชีวิตตนตลอดเวลาแล้ว ไปไหนก็ตามจะสวดมนต์ ส่วนมุมมองที่ หนุ่มเจมส์ มีต่อพระพุทธศาสนา คือเชื่อว่าเรามีพระอยู่กับตัวมีศาสนา มีคำสอนให้ยึดเหนี่ยวจิตใจ ทำให้สบายใจ ไม่ได้ศรัทธาศาสนาตามความนิยม เจ้าตัวบอกว่าอาจรู้เรื่องของศาสนาประมาณหนึ่ง ไม่ได้รู้ทุกอย่าง ไม่ได้ปิดกั้น พร้อมจะเรียนรู้ไปเรื่อยๆ

2. อาโป ณัฐวิญญ์

สำหรับ อาโป ณัฐวิญญ์ วัฒนกิติพัฒน์  คุณพ่อคุณแม่เลี้ยงแบบให้อิสระ แต่อีก 50 เปอร์เซ็นต์ ท่านบอกต้องเข้าวัด ตอนเด็กไม่เคยเต็มใจไปวัดเลย แต่แล้วก็มีจุดเปลี่ยนคือตอนเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาที่ 4 คุณแม่อยากให้บวชสามเณร อาโป ขอปฏิเสธไปจนท่านร้องไห้ พอเห็นอย่างนั้นรู้สึกไม่ดี จึงตัดสินใจยอมบวช 1 เดือน พร้อมตั้งใจปฏิบัติเต็มที่ ซึ่งหลังจากนั้นก็เปิดใจขึ้นมาก จนได้คำตอบว่าธรรมะคือสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตจริงๆ  โตขึ้นเริ่มไปปฏิบัติธรรมที่วัดเองบ่อยครั้ง ได้กล่อมเกลาชีวิตในหลายเรื่อง เห็นความสําคัญเรื่องสติ หากไม่ได้ปฏิบัติธรรม จะฝึกสติเวลาว่างเสมอ ซึ่ง อาโป เผยให้ฟัง และนำไปปฎิบัติตามไว้ ดังนี้ค่ะ  “ถ้านั่งว่าง ๆ ผมจะยกมือขึ้นมาหนึ่งข้างเอาปลายนิ้วชี้กับนิ้วโป้งแตะกัน จากนั้นก็วนนิ้วทั้งสองที่แตะกันไปมา ระหว่างที่วนผมจะไม่พูดอะไร วนไปเรื่อย ๆ ผ่านไปประมาณ 1 นาที เราจะรู้สึกว่าความคิดเข้ามาเรื่อย ๆ เราก็แค่รู้ว่าความคิดมันเข้ามา แต่ถ้าเรามีสติ เราจะจดจ่ออยู่ที่การวนนิ้ว ทําให้เราอยู่กับปัจจุบันมากขึ้น ถ้าเราฝึกสติบ่อย ๆ นอกจากจะทําให้เราอยู่กับปัจจุบันเป็นแล้ว ยังทําให้ เราเข้าใจตัวเองมากขึ้น เข้าใจคนอื่น เพราะเรารู้จักฟังเขา รู้ว่าเขาต้องการอะไร ก็จะทําให้ใช้ชีวิตง่ายขึ้น”

หล่อแรงแย่งซีนมาริโอ้!! “อิน สาริน” ในบทพ่อเพิ่ม เพื่อนเจ้าบ่าวทองเอก #คิ้วท์บอยท่าโฉลง

3. ต่อ ธนภพ

ก่อนเคยเป็นหนุ่มห้าวเป้งแต่ทุกวันนี้ ต่อ ธนภพ เปลี่ยนแปลงตัวเองได้ เพราะหันหน้าสู่พระพุทธศาสนา ในช่วงวัยเลือดร้อนคุณพ่อคุณแม่ถึงกับจ้างให้บวชสามเณร ด้วยความที่มองศาสนาเป็นสิ่งไกลตัว จึงคิดไว้ว่าชีวิตนี้ไม่มีทางบวช… แต่แล้ววันหนึ่งก็กลับหันหน้าเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ด้วยตัวเอง อยู่ๆ ก็อยากบวชไม่รู้มีอะไรมาดลใจ หนุ่มต่อ ให้ข้อคิดดีๆ ว่า “ระหว่างอยู่ที่วัด ผมได้อยู่กับตัวเองจริงๆ ผมกวาดฝุ่นที่พื้นกระเบื้อง พยายามกวาดออกไปข้างนอก แต่พอกวาดไปแล้ว ลมก็ตีกลับเข้ามาอีก ผมกวาดไปอีก ลมก็ตีกลับมาที่เดิม ผมคิดได้ตอนนั้นเลยว่า การที่มีคนมาทำอะไรเรา แล้วเราโต้ตอบ เขาก็จะต้องโต้ตอบกลับมา มันคือธรรมชาติ”  ซึ่งสิ่งที่ทำให้เริ่มคิดได้ คือพอสึกออกมาโดนกลุ่มคู่อริล้อมไว้ เมื่อก่อนสู้ยิบตา แต่ตอนนั้นยืนก้มหน้าแล้วพูดว่า “ขอโทษว่ะ” พอทำแบบนี้อีกฝ่ายก็ไม่ทำร้าย ต่างแยกย้ายกัน หนุ่มต่อ  ยังเล่าอีกว่าปัจจุบันตอนที่ยุงกัด จะใช้วิธีหยิบและโยนออกไป เพราะไม่อยากเบียดเบียนชีวิตใคร และนอกจากนั้นคือ ถ่ายละครดึกแค่ไหน จะกลับมาสวดมนต์ก่อนนอนทุกครั้ง เพราะส่งผลดีกับตัวเองจริงๆ

4. เก่ง ธชย

ปิดท้ายที่ศิลปินเสียงเทพ เก่ง ธชย การดำเนินชีวิตตั้งแต่วัยเด็กของเจ้าตัว มีมุมน่าเอาเป็นแบบอย่างอีกเรื่องคือหัวใจธรรมะที่เขามีตั้งแต่เด็ก ซึ่ง หนุ่มเก่ง เล่าว่าหลังจากประสบความสำเร็จด้านการแข่งขันร้องเพลงไว้ระดับที่เกินคาดว่า หลายคนบอกว่าอีกเหตุผลที่ทำให้ตนประสบความสำเร็จคือ ผลบุญที่ทำมาตั้งแต่เด็กเป็นเพราะว่าตนชอบเข้าวัดฟังธรรม ทำบุญถวายสังฆทาน รวมถึงชอบเข้าวัดเพื่อไปปฏิบัติธรรมเป็นประจำ แต่การทำดีของเจ้าตัวไม่ได้หวังถึงขนาดนั้น  เพราะคิดเพียงว่าแค่ได้เข้าวัดทำบุญ ตนก็มีความสุขและสบายใจเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว เพราะสำหรับผู้ชายคนนี้ยึดธรรมะคือความสบายใจ

กดติดตาม ADD Line @UndubZapp