“ยิ่งลดน้ำหนัก กลับยิ่งอ้วนขึ้น” ผิดปกติมั้ย!? มาฟังคำตอบ

สาวๆ ที่กำลังลดความอ้วนส่วนใหญ่มักโฟกัสกับตัวเลขน้ำหนักบนเครื่องชั่งเป็นอย่างมาก  แต่หลายครั้งก็ต้องเจอกับเหตุการณ์สุดช็อก เมื่อต้องพบว่าตัวเลขบนเครื่องชั่งน้ำหนักของตัวเองกลับเพิ่มขึ้น แทนที่จะลดลง ทั้งที่ปฏิบัติตามหลักการลดน้ำหนักอย่างเคร่งครัด  แต่อย่างเพิ่งขวัญหนีและหมดกำลังใจไปค่ะ  เพราะ UndubZapp จะมาไขความกระจ่างสำหรับเรื่องให้

 

ความจริงแล้วคุณไม่จำเป็นต้องกังวลกับตัวเลขน้ำหนักขนาดนั้นค่ะ  เพราะโดยปกติร่างกายก็จะมีน้ำหนักขึ้นๆ ลงๆ แบบนี้ตลอดทั้งวัน ซึ่งนอกจากจะขึ้นอยู่กับปริมาณอาหารที่ทานเข้าไปแล้ว ยังมีสาเหตุหลักมาจากปริมาณของเหลวในร่างกายอีกด้วย  สังเกตได้ว่า หากคุณชั่งน้ำหนักในตอนเช้า โดยที่ยังไม่ได้ดื่มน้ำ มักเห็นตัวเลขน้ำหนักน้อยกว่าการชั่งในเวลาอื่นๆ  เนื่องจากร่างกายไม่ได้ดื่มน้ำและทานอาหารมาเป็นเวลานานหลายชั่วโมง

นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงระดับของเหลวในร่างกายยังขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย อาทิ  ในช่วงการมีประจำเดือนของผู้หญิง ร่างกายมักจะมีการสะสมของเหลวมากขึ้น ทำให้มีน้ำหนักมากกว่าปกติ  นอกจากนี้ การรับประทานอาหารที่มีรสเค็มจัด  ก็เป็นสาเหตุให้ร่างกายบวมน้ำและน้ำหนักตัวขึ้นได้เช่นกัน

 

ถึงแม้ว่าร่างกายจะมีการเปลี่ยนแปลงน้ำหนักอยู่ตลอดเวลา  แต่ UndubZapp ก็ยังมีวิธีในการติดตามผลการลดน้ำหนักที่ใช้ได้ผลมาฝากกัน ซึ่งรับรองว่าคำแนะนำเหล่านี้ จะช่วยให้คุณหายกังวลกับการสวิงของน้ำหนักแน่นอนค่ะ

 

1. เลือกช่วงเวลาการชั่งน้ำหนักให้แน่นอน

เพื่อหลีกเลี่ยงความผันผวนของปริมาณน้ำในร่างกายระหว่างวัน คุณควรเลือกช่วงเวลาเดียวกันของแต่ละวันในการชั่งน้ำหนัก รวมทั้งเลือกสวมเสื้อผ้าที่มีลักษณะคล้ายกันอีกด้วย เช่น ใส่ชุดนอนชั่งน้ำหนักในช่วงเช้าหลังตื่นนอน เป็นต้น  อย่างไรก็ตาม เพื่อการติดตามผลการลดน้ำหนักที่ไม่เครียดจนเกินไป ควรชั่งน้ำหนักเพียงเดือนละ 1 ครั้ง เพราะจะสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงโดยรวมได้ชัดเจนมากกว่าค่ะ

 

 

Advertisements

2. วัดสัดส่วนแทนการชั่งน้ำหนัก

ในเมื่อตัวเลขน้ำหนักมีความไม่แน่นอนสูง การวัดสัดส่วนเป็นวิธีที่แม่นยำกว่าในการติดตามผลการลดความอ้วน  โดยวัดเฉพาะส่วนที่สำคัญ เช่น สะโพก, เอว และต้นขา เป็นต้น  ซึ่งหากคุณได้ควบคุมอาหารอย่างถูกวิธี และออกกำลังกายเป็นประจำ  การวัดสัดส่วนโดยสายวัดจะเห็นผลที่ชัดเจนเร็วกว่าตัวเลขน้ำหนักอีกค่ะ  นอกจากนี้ ยังอาจใช้ความรู้สึกในการใส่เสื้อผ้าเป็นตัววัดได้อีกด้วย  เพราะหากการลดความอ้วนของคุณประสบความสำเร็จ คุณจะต้องรู้สึกว่าเสื้อผ้าหลวมมากขึ้นแน่นอน

 

 

3. อย่ากลัวที่จะขอความช่วยเหลือ

ความจริงการลดความอ้วนไม่ใช่เรื่องยาก แต่ก็ไม่ง่ายนัก หากคุณลองทำตามวิธีการลดน้ำหนักที่คิดว่าถูกต้องอยู่เป็นแรมเดือนก็ยังไม่เห็นผล  การหาตัวช่วยด้วยการปรึกษานักโภชนาการหรือแพทย์ก็เป็นทางเลือกที่ดี  เพราะความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญอาจทำให้คุณพบสาเหตุที่เป็นอุปสรรคในการลดน้ำหนักโดยที่คุณไม่รู้ตัว  อย่างไรก็ตาม ควรตั้งเป้าหมายในการลดน้ำหนักให้อยู่บนความเป็นจริง  ซึ่งมาตรฐานอยู่ที่ประมาณสัปดาห์ละ 0.5 – 1 กิโลกรัมค่ะ

 

 

4. ช้าแต่ชัวร์ คือชัยชนะที่ยั่งยืน

ถึงแม้ว่าคุณจะลองมาจนครบทุกวิธีที่ UndubZapp แนะนำมาแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้ผล  ขอให้จงตระหนักไว้ว่า  การรับประทานอาหารที่ดี และการออกกำลังกายที่คุณกำลังทำอยู่นี้ จะนำพาให้คุณห่างไกลจากโรคร้าย  ไม่ว่าจะเป็นโรคเบาหวาน โรคหัวใจ หรือโรคเส้นเลือดในสมองตีบ  ที่สำคัญ การคำนึงถึงสุขภาพมากกว่าการลดน้ำหนัก ย่อมทำให้คุณมีสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืนค่ะ

 

กดติดตาม ADD Line @UndubZapp

Advertisements

Advertisements

Advertisements