เสี่ยงตับไตพัง!! 3 วิธีเช็คสารกันบูดในก๋วยเตี๋ยวง่ายๆ

ข้อมูลจากศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เผยผลสำรวจที่น่าตกใจ สะเทือนใจคนรักเส้นก๋วยเตี๋ยวว่า พบปริมาณ “กรดเบนโซอิก” หรือที่เรียกง่ายๆ ว่า “สารกันบูด” ใน “เส้นก๋วยเตี๋ยว” ที่เรากินตามร้านทั่วไปมากถึง 1,079 – 17,250 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ซึ่งถ้าได้รับสารนี้เข้าสู่ร่างกายมากเกินไป จะเกิดการสะสมเสี่ยงต่อการเป็นโรคตับ โรคไตในอนาคต สำหรับใครที่ชอบทานก๋วยเตี๋ยวหรือทานเพื่อสุขภาพเป็นอาหารลดความอ้วน ต้องพึงระวังให้มากขึ้นนะคะ

2. เส้นก๋วยเตี๋ยว-สารกันบูด

ผลวิจัยพบ 6 อันดับ เส้นก๋วยเตี๋ยวที่ใส่สารกันบูดมากที่สุด ดังนี้!

อันดับ 1 เส้นเล็ก พบปริมาณกรดเบนโซอิกสูงสุด 17,250 มิลลิกรัม/กิโลกรัม (อันตรายสุด)

อันดับ 2 เส้นหมี่ พบปริมาณกรดเบนโซอิกสูงสุด 7,825 มิลลิกรัม/กิโลกรัม

เส้นก๋วยจั๊บ พบปริมาณกรดเบนโซอิกสูงสุด 7,358 มิลลิกรัม/กิโลกรัม

บะหมี่โซบะ พบปริมาณกรดเบนโซอิกสูงสุด 4,593 มิลลิกรัม/กิโลกรัม

เส้นใหญ่ พบปริมาณกรดเบนโซอิกสูงสุด 4,230 มิลลิกรัม/กิโลกรัม

3. เส้นก๋วยเตี๋ยว-สารกันบูด

เส้นที่ไม่พบสารกันบูด

บะหมี่เหลือง

Advertisements

วุ้นเส้น

4. เส้นก๋วยเตี๋ยว-สารกันบูด

วิธีการเช็กเบื้องต้นง่ายๆ และการป้องกันสำหรับสารกันบูดในเส้นก๋วยเตี๋ยว ข้อมูลโดย คณะกรรมการอาหารและยา

เส้นก๋วยเตี๋ยวที่ใส่สารกันบูดมากๆ เส้นจะ “เหนียวหนึบ” ไม่ค่อยขาดจากกัน อีกทั้งเส้นที่ใส่สารกันบูดเมื่อนำลวกในหม้อ สังเกตว่าน้ำที่ลวกจะ “ขุ่น”

เส้นก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ หรือเส้นสดที่ใส่สารกันบูด ทิ้งไว้ 2-3 วัน สีสันจะคงเดิม แต่หากมาดมกลิ่นจะ “เหม็นเปรี้ยว” ผิดกับเส้นที่ไม่ใส่สารกันบูด หากทิ้งไว้เพียงคืนเดียว เส้นก็ขึ้นราและบูด

ด้านผู้ประกอบการจะต้องไม่เอาเปรียบผู้บริโภค และเลือกเส้นก๋วยเตี๋ยวที่ใช้ระยะเวลาขนส่งไม่นาน เพื่อวัตถุดิบที่สดใหม่ และเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่ควบคุมความชื้นได้เป็นอย่างดี

5. เส้นก๋วยเตี๋ยว-สารกันบูด

อย่างไรก็ตามผลวิจัยนี้เป็นการสุ่มทดลองในแถบภาคอีสานเท่านั้น ไม่เป็นที่ยืนยันได้ร้อยเปอเซ็นต์ว่าทุกร้านก๋วยเตี๋ยวจะมีสารกันบูดทุกร้านเสมอไป และการที่จะให้เลิกกินก๋วยเตี๋ยวไปเลยคงเป็นเรื่องยาก เพราะฉะนั้นอยากให้ทุกท่านเลือกทานในปริมาณที่เหมาะสม เลือกร้านที่ดูสะอาดใช้วัตถุดิบที่ดี เลือกได้ให้เลือกทานเส้นหมี่เหลืองหรือวุ้นเส้น และที่สำคัญที่สุด อย่าลืมออกกำลังกายเป็นประจำ ดื่มน้ำเยอะๆ ดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง เพียงเท่านี้ก็ปลอดภัยขึ้นมาก แถมได้ทานของที่ชอบได้อย่างมีความสุขด้วยค่ะ

CR : คณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข , Pixabay

Advertisements

Advertisements

Advertisements