ขึ้นชื่อว่า Bully ซึ่งมีความหมายว่า กลั่นแกล้ง ข่มเหง ระรานแล้ว แน่นอนล่ะว่าคงไม่มีใครชอบนักหรอก แต่จะทำอย่างไรดีหากในชีวิตอันเงียบสงบนี้ เราเกิดโดนเพื่อนร่วมงานรวมหัวกันเทขึ้นมา ผู้ใหญ่วัยทำงานคงไม่มีใครมาท้าตีอัดคลิปประจาน หรือยกพวกมาเคลียร์หรอก เพราะได้ชื่อว่ามีวุฒิภาวะกันหมดแล้ว แม้ว่าจะมีการกลั่นแกล้งกันในวัยทำงานอยู่บ้าง แต่ส่วนใหญ่ก็จะใช้วิธีพูดจาจิกกัด ใส่ร้ายป้ายสี ทำให้เราเสียชื่อประมาณนี้มากกว่า แล้วยิ่งในยุคนี้ที่การแชร์ข่าวสารง่ายเสียยิ่งกว่าปอกกล้วย ก็ยิ่งทำให้การกลั่นแกล้งในโลกออนไลน์ยิ่งง่ายเข้าไปใหญ่ ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ถูกกลั่นแกล้งจากเพื่อนร่วมงานในโลก social อยู่ล่ะก็ ตาม UndubZapp มาดูดีกว่าว่าคุณจะทำใจรับมือกับเรื่องนี้อย่างไรดี แล้วคุณจะสามารถผ่านเรื่องนี้ไปได้
1. รีพอร์ตการคุกคามทุกช่องทาง
รูปแบบของ Cyber Bully นั้นมีอยู่หลายรูปแบบด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการแสดงความคิดเห็นเชิงลบ การใช้รูปภาพผู้อื่นมาแอบอ้าง การ Hack Account ของผู้อื่นแล้วนำ Account ของผู้อื่นไปใช้งานในทางมิชอบ การใช้ข้อความข่มขู่ การโพสต์สิ่งที่ทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหาย หรือโดนเข้าใจผิด เป็นต้น เราเชื่อว่า App และ Social Network ต่างๆ เข้าใจปัญหาทั้งหมดที่อาจเกิดขึ้นได้กับผู้ใช้งานทุกคนดี จึงเปิดให้เราสามารถแจ้งรายงานการใช้งานที่ไม่เหมาะสมได้ เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณโดน Cyber Bully ก็ให้รีพอร์ตผู้ใช้งานนั้นเสีย
2. ไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนตัว
เชื่อว่าหลายๆ คนก็คงคิดเหมือนกัน ว่าการใส่ชื่อจริง ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ หรือเช็กอินในสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ คงไม่ทำให้ใครเดือดร้อนอะไร ถึงคุณโพสต์เรื่องส่วนตัวแค่ไหนก็คงไม่ทำให้ใครบาดเจ็บ เรื่องนั้นเราต้องยอมรับว่ามีส่วนถูกอยู่ไม่น้อย เพราะคนที่จะเดือดร้อนหากมีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้นจริงๆ ก็คือตัวคุณคนเดียวนั่นล่ะ ฉะนั้นก่อนที่จะแชร์ข้อมูลส่วนตัวใดๆ บนโลกอินเตอร์เน็ต คิดดีๆ ก่อนว่าคนอื่นๆ ในประเทศจำเป็นต้องรู้รายละเอียดของคุณขนาดนั้นไหม ถ้าคุณใช้คอมพิวเตอร์ร่วมกับผู้อื่น เป็นต้นว่า คอมพิวเตอร์ที่ทำงาน ที่โรงเรียน หรือในอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ มาร์กตัวโตๆ ไว้เลยว่าอย่าลืมลงชื่อออกจากการใช้งานเด็ดขาด
Advertisements
3. ตรวจสอบให้ละเอียดก่อนโพสต์
นอกเหนือไปจากการรีพอร์ตผู้ใช้งานที่ไม่เหมาะสม สื่อโซเชียลต่างๆ ยังช่วยให้เราควบคุมโพสต์ต่างๆ ในหน้าฟีดของเราได้ด้วย ดังนั้นส่วนหนึ่งมันก็ขึ้นอยู่กับคุณแล้วล่ะ ว่าคุณจะทำให้ตัวเองเป็นต้นตอของการกลั่นแกล้งได้หรือเปล่า อย่างที่คุณหลายๆ คนคงเคยเห็นแล้ว มีเซเลบริตี้ คนดัง คนมีชื่อเสียงมากมายที่ไม่คิดให้รอบคอบก่อนโพสต์สิ่งต่างๆ ลงโซเชียลมีเดีย แล้วผลที่ตามมาเป็นอย่างไร? มันก็ขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของแต่ละคนน่ะนะ แต่ถ้าคุณรู้ตัวว่าตัวเองเป็นคนเวิ่นเว้อ นอยด์เมื่อไหร่ จิตตกตอนไหน ต้องรีบรายงานให้โลกรู้ทันที เราขอแนะนำให้คุณอยู่ห่างจากโซเชียลไว้เลยดีกว่า แล้วชีวิตจะปลอดภัยขึ้นอีกเยอะ
4. คิดเสียว่าชีวิตมีขึ้นมีลงเป็นเรื่องปกติ
เวลาที่เศร้า เหงา ท้อแท้ เราเชื่อว่าร้อยทั้งร้อยทุกคนจะคิดทุกอย่างในแง่ลบไปหมด เช่นว่า ทำไมถึงไม่มีใครอยู่ข้างเราตอนที่เราต้องการเลย ทำไมถึงไม่มีใครช่วยเรา ทำไมเราถึงต้องโดนแกล้ง แม้ว่าคุณกำลังจะคิดเช่นนี้อยู่ในห้องเพียงลำพัง แต่เชื่อเราเถอะว่ามีคนจำนวนมากถึง 62% ที่เคยถูกข่มขู่กลั่นแกล้งผ่านทางสื่อโซเชียลมาแล้ว น่าเศร้าที่เราต้องยอมรับว่าการ Bully ได้ยกระดับขึ้นไปมาก แต่มองในด้านดีคือหลายๆ คนบนโลกก็ผ่านเรื่องนี้ไปได้ และยังคงใช้ชีวิตอย่างมีความสุข เราเชื่อว่าคุณเองก็จะผ่านมันไปได้เหมือนกัน ฉะนั้นอย่าท้อแท้นะคะ คิดเสียว่าชีวิตคนเรามีขึ้นมีลงเป็นเรื่องปกติ เรื่องร้ายผ่านมาเดี๋ยวมันก็ผ่านไปค่ะ
Advertisements