คอมบูชาคืออะไร? ทำความรู้จักชาหมัก เครื่องดื่มจุลินทรีย์แก้ท้องผูก

ไม่นานมานี้ แบรนด์นมเปรี้ยวชื่อก้องเพิ่งเปิดตัวเครื่องดื่มสุขภาพตัวใหม่อย่างคอมบูชา ซึ่งว่ากันว่ามีสรรพคุณเป็นเลิศในการส่งเสริมประสิทธิภาพการทำงานของอวัยวะภายในร่างกาย โดยเฉพาะระบบย่อยอาหาร และยังช่วยปรับสมดุลให้ระบบขับถ่ายทำงานได้เป็นปกติ เป็นเหตุให้หลายๆ คนเกิดความสงสัยว่าทำไมต้องคอมบูชา แล้วคอมบูชาคืออะไรกันแน่?

UndubZapp ขออาสาพาทุกท่านมาทำความรู้จักกับชาหมัก Kombucha เครื่องดื่มจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ พร้อมส่องคุณประโยชน์ของเครื่องดื่มชนิดนี้ เพื่อให้ทุกท่านได้เพิ่มความรู้ความเข้าใจในสรรพคุณคอมบูชาก่อนตัดสินใจเลือกซื้อกันค่ะ ไปดูกันเลยค่ะ!

 

คอมบูชาคืออะไร?

คอมบูชา (Kombucha) คือ ชาหมักชนิดหนึ่ง ซึ่งเกิดจากการนำชาดำหรือชาเขียวมาหมักรวมกับน้ำตาล จุลินทรีย์ และยีสต์ แล้วบ่มทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้อง เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 1 สัปดาห์ จนเกิดจุลินทรีย์และยีสต์สายพันธุ์ดี หรือที่เรียกกันว่า “โพรไบโอติก” มีสรรพคุณรักษาสมดุลของระบบทางเดินอาหารและระบบขับถ่าย ลดไขมันสะสมบริเวณหน้าท้อง ล้างพิษตกค้างในร่างกาย

 

คอมบูชารสชาติเป็นอย่างไร?

คอมบูชามีกลิ่นและรสชาติเป็นเอกลักษณ์ โดยมีรสเปรี้ยวนำ ตามด้วยรสหวานเล็กน้อย บ้างก็ว่ารสชาติคล้ายชามะนาว แต่เป็นชามะนาวเวอร์ชั่นซ่าๆ เนื่องจากกระบวนการหมักคอมบูชาทำให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ผลลัพธ์ที่ได้จึงมีความซ่าคล้ายเครื่องดื่มอัดแก๊สหรือไซเดอร์ ยิ่งดื่มตอนที่รู้สึกเพลียก็ยิ่งดี เพราะดื่มแล้วทำให้เกิดความรู้สึกสดชื่นไม่แพ้การดื่มน้ำอัดลม แตกต่างกันตรงที่คอมบูชามีประโยชน์กว่ามาก นับว่าเป็นตัวช่วยชั้นดีในการปรับสมดุลลำไส้ อีกทั้งยังช่วยทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นด้วย

 

ดื่มคอมบูชาตอนไหนดี?

แนะนำให้ดื่มขณะท้องว่าง อาจดื่มก่อนมื้ออาหาร 30 นาที หรือหลังมื้ออาหาร 1 ชั่วโมง หรือเมื่อรู้สึกอ่อนเพลีย เพื่อให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารไปใช้ได้ทันที โดยแบ่งดื่มครั้งละ 100-150 มิลลิลิตร วันละ 2-3 ครั้ง ช่วงเช้า บ่าย เย็น ก็ถือว่าเพียงพอแล้ว

 

ผู้ที่ไม่เคยดื่มคอมบูชามาก่อน แนะนำให้ดื่มติดต่อกัน 1 สัปดาห์ เพื่อดีท๊อกซ์สารพิษ ปรับสมดุลของจุลินทรีย์ในร่างกายให้เข้าที่ หลังจากนั้นจึงลดปริมาณการดื่มลงตามความต้องการ อาจเป็นอาทิตย์ละครั้ง เพื่อรักษาสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้ต่อไปเรื่อยๆ

 

สำหรับผู้ที่มีประวัติแพ้อาหาร อาจลองดื่มคอมบูชาในปริมาณน้อยๆ ก่อน แล้วสังเกตปฏิกิริยาตอบสนองของร่างกายดูว่าเป็นอย่างไร หากไม่มีความผิดปกติเกิดขึ้นก็ดื่มต่อได้ตามปกติ หากมีอาการผิดปกติเกิดขึ้นกับร่างกาย หรือมีอาการแพ้อาหารอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น เกิดผื่นคัน ลมพิษ ปากบวม หายใจไม่สะดวก ควรหยุดดื่ม และรีบพบแพทย์ เพื่อรับการรักษาอย่างทันท่วงที

 

คอมบูชามีประโยชน์อะไรบ้าง?

 

Advertisements

  • ช่วยปรับสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้

คอมบูชามีคุณสมบัติปรับสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้ให้เกิดความสมดุล โดยการเพิ่มจำนวนจุลินทรีย์ชนิดดี ลดจำนวนจุลินทรีย์ชนิดไม่ดี ซึ่งก่อให้เกิดอาการอักเสบต่างๆ ในร่างกาย ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียบางชนิด

 

  • ยับยั้งการติดเชื้อแบคทีเรีย

คอมบูชามีกรดอะซิติก (Acetic acid) เป็นส่วนประกอบหลัก ซึ่งกรดอะซิติกที่ว่านี้มีคุณสมบัติในการลดการเจริญเติบโตของของเชื้อราและเชื้อจุลินทรีย์ที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย โดยไม่ทำให้จุลินทรีย์ชนิดดีลดน้อยลง ซึ่งงานวิจัยที่ศึกษาประสิทธิภาพของคอมบูชาในการยับยั้งการติดเชื้อแบคทีเรียก็ซัพพอร์ตว่า คอมบูชาอาจช่วยยับยั้งการติดเชื้อได้

 

  • กระตุ้นการขับถ่าย ลดท้องผูก

คอมบูชาอุดมไปด้วยโพรไบโอติกส์ (Probiotics) หรือจุลินทรีย์ขนาดเล็ก ซึ่งจัดอยู่ในหมวดหมู่จุลินทรีย์ชนิดดี ช่วยป้องกันลำไส้แปรปรวน ลำไส้อักเสบ โรคทางเดินอาหาร อีกทั้งยังช่วยในการทำงานของระบบขับถ่าย ลดท้องผูก

 

  • ต่อต้านอนุมูลอิสระ

คอมบูชาประกอบไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระนานาชนิด จึงมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ภูมิต้านทานแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ป้องกันการเสื่อมของเซลล์ ซึ่งเกิดขึ้นจากอนุมูลอิสระ

 

  • ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ

ผลวิจัยพบว่า คอมบูชามีประสิทธิภาพในการกำจัดไขมันอันตรายในกระแสเลือด ช่วยยับยั้งการสะสมคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (Low Density Lipoprotien : LDL) จึงอาจกล่าวว่า คอมบูชาสามารถลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจได้

 

คอมบูชามีโทษไหม?

คอมบูชาขึ้นชื่อว่าเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ แม้แต่คนกินคีโตก็สามารถดื่มได้อย่างปลอดภัย แต่ถ้าเลือกซื้อโดยไม่ระมัดระวังก็อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้เช่นกัน ผู้บริโภคจึงควรเลือกซื้อผลิตภัณฑ์คอมบูชาจากผู้ผลิตที่ได้รับการรับรองมาตรฐานของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ลดความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพ อาทิ ปวดท้อง ท้องเสีย ติดเชื้อในทางเดินอาหาร

 

ใครไม่ควรกินคอมบูชา?

ไม่เแนะนำให้ผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันต่ำ, เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 4 ปี, คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ดื่มคอมบูชา

 

©Feature image : freepik, pexel

 

Advertisements

Advertisements

Advertisements