ทราบหรือไม่ว่า…. วันที่ 20 มีนาคมของทุกๆ ปี ได้ถูกกำหนดให้เป็นวัน UN World Happiness Day หรือ International Day of Happiness โดยองค์กรสมาชิกของเครือข่ายการแก้ปัญหาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนในสังกัดสหประชาชาติ (United Nations Sustainable Development Solutions Network หรือชื่อย่อว่า UNSDSN)
และในวัน International Day of Happiness นี้ก็ได้กลายเป็นธรรมเนียมไปแล้วว่าจะเป็นวันที่ทำการประกาศการจัดอันดับประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลกประจำปี โดยตัวดัชนีชี้วัดที่ใช้ในการให้คะแนนและจัดอันดับ ก็คือ จีดีพี (ผลิตภัณฑ์มวลรวม) ต่อหัว, อายุขัยเฉลี่ยของประชากร, เสรีภาพในการเลือกใช้ชีวิตและทำงาน, ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ในสังคม, ความโปร่งใส ฯลฯ นอกจากนี้ยังเจาะลึกถึงประเด็นที่เกี่ยวกับความสุข รวมถึงความเจ็บป่วยทางจิต ความอยู่ดีกินดีอัตนัย และความพยายามระหว่างประเทศและระดับชาติอื่น ๆ ซึ่งวัดจากประเทศสมาชิกองค์การสหประชาชาติ 156 ประเทศ และผลการจัดอันดับประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลกประจำปี 2018 ก็คือ
อันดับ 10 ประเทศออสเตรเลีย
ออสเตรเลีย เป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 6 ของโลก ประชากรประกอบด้วยคนจากหลากหลายเชื้อชาติวัฒนธรรมกว่า 140 ประเทศที่อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานตลอด 50 ปีที่ผ่านมา ทำให้กลายเป็นประเทศที่มีสังคมแบบสหวัฒนธรรม
อันดับ 9 ประเทศสวีเดน
สวีเดน เป็นรัฐสวัสดิการที่ดี ทำให้ผู้คนมีความเป็นอยู่ที่ดี และเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปทำให้ประชาชนของประเทศสมาชิก สามารถเดินทางเข้าออกสวีเดนได้อย่างเสรี
อันดับ 8 ประเทศนิวซีแลนด์
รัฐบาลของประเทศนิวซีแลนด์สนับสนุนให้ผู้มีความรู้ ความสามารถอพยพจากประเทศต่างๆ เข้ามาตั้งถิ่นฐานในประเทศนิวซีแลนด์ได้ ทำให้เป็นสังคมที่ประกอบไปด้วยหลายชาติหลายภาษา ผู้คนเป็นมิตรต่อกัน ไม่มีการเหยียดผิว หรือดูถูกคนต่างชาติ
อันดับ 7 ประเทศแคนาดา
แคนาดา เป็นประเทศที่อยู่ใกล้ขั้วโลกเหนือ ทำให้มีภูมิอากาศที่หนาวเย็น แต่ในขณะเดียวกันก็มีแนวป่าเขียวขจีในแถบชายฝั่งตะวันตก มีประชากรประมาณ 30 ล้านคน ซึ่งน้อยมากเมื่อเทียบกับความกว้างใหญ่ของประเทศ ที่มีขนาดถึง 9,970,610 ตารางกิโลเมตร เป็นประเทศที่อุดมสมบูรณ์ มีชื่อเสียงด้านการผลิตอาหาร
อันดับ 6 ประเทศเนเธอร์แลนด์
© รูปต้นฉบับ: nationalgeographic
เนเธอร์แลนด์ หรือ ฮอลแลนด์ หรือ ฮอลันดา เป็นประเทศซึ่งตั้งอยู่ในยุโรปตะวันตกตอนเหนือ ภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นที่ราบลุ่ม และพื้นที่หนึ่งในสี่ของประเทศต่ำกว่าระดับน้ำทะเล จนทำให้เกิดการพัฒนาสร้างสิ่งก่อสร้างด้านวิศวกรรมการจัดการน้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
Advertisements
อันดับ 5 ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
สวิตเซอร์แลนด์ มีชื่อเสียงในเรื่องความงดงามของทิวทัศน์ ภูเขาและทุ่งหญ้า รวมทั้งมีมาตรฐานความเป็นอยู่ที่สูง โดดเด่นในเรื่องธุรกิจธนาคาร และเป็นแหล่งผลิตนาฬิกาที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก
อันดับ 4 ประเทศไอซ์แลนด์
ไอซ์แลนด์ เป็นเกาะอยู่ใต้เส้นอาร์กติก เซอร์เคิล ทางตอนเหนือของมหาสมุทรแอตแลนติก มีฤดูร้อนที่สั้นและเย็น มีฤดูหนาวที่ยาวนานแต่ไม่หนาวจัด อุณหภูมิเฉลี่ยในเดือนกรกฎาคมเดือนที่ร้อนที่สุดประมาณ 11 องศาเซลเซียส และในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นเดือนที่หนาวที่สุดประมาณ -1 องศาเซลเซียล
อันดับ 3 ประเทศเดนมาร์ก
เดนมาร์ก มีอากาศหนาวตลอดทั้งปี เป็นประเทศที่มีทั้งการเพาะปลูก และเลี้ยงสัตว์เป็นจำนวนมาก ขึ้นชื่อในเรื่องของฟาร์มโคนม เป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีความปลอดภัยและสงบสุข มีความเคารพในสิทธิมนุษยชนสูง มีความเสมอภาคระหว่างชาย-หญิง ทั้งยังมีสถิติการเกิดคดีฆาตกรรมและอาชญากรรมรุนแรงในระดับต่ำมาก
อันดับ 2 ประเทศนอร์เวย์
นอร์เวย์ หรือชื่อเต็มว่า ราชอาณาจักรนอร์เวย์ ส่วนหนึ่งของประเทศติดมหาสมุทร ขึ้นชื่อในเรื่องความงดงามของชายฝั่ง นอกจากจะมีหมู่เกาะมากมายแล้ว ยังมีอาณาเขตส่วนหนึ่งอยู่ในทวีปแอนตาร์กติกา และมีจำนวนประชากรเพียง 5,000,000 คนเท่านั้น ทำให้พื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศยังคงมีธรรมชาติที่สมบูรณ์
อันดับ 1 ประเทศฟินแลนด์
ฟินแลนด์ ที่พุ่งขึ้นจากอันดับที่ 5 ในปี 2016 กลายมาเป็นอันดับ 1 ในปีนี้ โดยแซงหน้าแชมป์เก่าอย่างนอร์เวย์ ประเทศจากแถบสแกนดิเนเวียด้วยกัน ด้วยคะแนนความสุข 7.632 คะแนน ปัจจุบันฟินแลนด์มีประชากรราว 5.5 ล้านคน สถิติเมื่อปี 2016 ชี้ว่ามีชาวต่างชาติอาศัยอยู่ราว 300,000 คน ประเทศไทยกับประเทศฟินแลนด์เป็นมิตรประเทศที่มีความสัมพันธ์กันมาช้านาน ไทยสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับฟินแลนด์ในปี พ.ศ. 2462 และความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับฟินแลนด์จะครบ 100 ปี ในปี พ.ศ. 2562 นี้
นอกจากนี้ประเทศที่มีความสุขมากที่สุด 10 อันดับแรกข้างต้นนั้นยังมีคะแนนความสุขของคนเข้าเมืองสูงที่สุดด้วย ซึ่งเป็นเครื่องบ่งชี้ว่าความเป็นอยู่ที่ดีของคนเข้าเมือง มีส่วนเชื่อมโยงกับคุณภาพชีวิตในประเทศที่พวกเขาเข้าไปตั้งรกรากด้วยค่ะ
Advertisements