ขิง เป็นสมุนไพรธรรมชาติที่ใช้ทั่วโลกเป็นเครื่องเทศ ในประเทศจีนนี้มีการใช้ขิงกันมายาวนานมากกว่า 2000 ปี และเนื่องมาจากขิงมีประสิทธิภาพสูงในการรักษาปัญหาสุขภาพมากมาย ทั้งมีฤทธิ์ต้านอาการคลื่นไส้, ต้านอาการกระตุก, ต้านเชื้อรา, ต้านการอักเสบ, ฆ่าเชื้อโรค, ต้านเชื้อแบคทีเรีย, ต้านไวรัส และต้านการแข็งตัว (ระงับอาการไอ) ทำให้ขิงกลายเป็นสิ่งมหัศจรรย์ ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกาย นอกจากนี้ขิงยังเป็นแหล่งวิตามิน A, C, E และ B- แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม ซิลิคอน โซเดียม เหล็ก สังกะสี แคลเซียมและเบต้าแคโรทีน โดยคุณสามารถได้รับประโยชน์จากขิงทั้งรูปแบบสด ป่นแห้งเป็นผง หรือ รูปแบบของน้ำขิง และน้ำมันสกัดจากขิง เรามาดูกันเลยค่ะว่าสมุนไพรขิง ให้ประโยชน์อะไรได้บ้าง
ประโยชน์ที่ 1 ช่วยขับลมในท้อง
คุณสมบัติพิเศษของขิงก็คือ สามารถขับลมบรรเทาอาการท้องอืดได้ นอกจากนี้ยังช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อของระบบทางเดินอาหาร ซึ่งจะช่วยป้องกันการเกิดก๊าซ และระงับอาการท้องอืดได้ นอกจากนี้ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพมักจะแนะนำให้ใช้ขิงเพื่อรักษาโรคท้อง เช่น อาการอาหารไม่ย่อย หรือ อาการจุกเสียด นอกจากนี้ยังใช้ในการรักษาโรคท้องร่วงที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียได้อีกด้วย และเพื่อการกินขิงหลังจากรับประทานอาหารมื้อใหญ่ๆ นั้น ยังสามารถช่วยให้ระบบการย่อยอาหารของร่างกายทำงานมีประสิทธิภาพดีมากขึ้น นอกจากนี้ ขิงยังสามารถช่วยบรรเทาอาการจากโรคอาหารเป็นพิษได้อีกด้วย
ประโยชน์ที่ 2 ป้องกันโรคหวัดและไข้หวัดใหญ่
ขิงสามารถช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน จึงถูกนำมาใช้เป็นยารักษาโรคหวัด และไข้หวัดใหญ่ตามธรรมชาติ นอกจากนี้ขิงมีคุณสมบัติต้านไวรัสและต้านเชื้อรา โดยการกระตุ้นการขับเหงื่อและขับไล่ความร้อน และช่วยบรรเทาอาการไข้ การกินขิงในช่วงที่เป็นหวัดหรือไข้หวัด จะช่วยคลายอาการหนาวเย็น และยังช่วยล้างพิษในร่างกาย นอกจากนี้คุณยังสามารถใช้ขิงผงหนึ่งช้อนชาหรือขิงสดขูดลงในถ้วยราวสองช้อนชา เพื่อสูดดมบรรเทาคัดจมูกได้
ประโยชน์ที่ 3 บำบัดอาการป่วยตอนเช้า
หญิงตั้งครรภ์ที่ป่วยเป็นโรคกระเพาะอาหารตอนเช้าสามารถใช้ขิงเพื่อกำจัดปัญหาได้ ขิงทำงานเหมือนวิตามินบี 6 ในการรักษาอาการแพ้ท้อง แก้คลื่นไส้ หรือผสมขิงกับน้ำผึ้ง กินเพื่อกำจัดอาการแพ้ท้อง อาการเมาคลื่นไส้ หากคุณไม่ชอบรสชาติของขิงดิบคุณสามารถเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารขิงได้
ประโยชน์ที่ 4 ลดอาการปวดข้ออักเสบ
ขิงมีคุณสมบัติต้านการอักเสบที่แข็งแรงซึ่งสามารถช่วยรักษาอาการปวดที่เกิดจากโรคเก๊าท์ โรคไขข้ออักเสบ และโรคข้อเข่าเสื่อมได้ จากการศึกษาในปี 2544 สารสกัดจากขิงพบว่ามีประสิทธิภาพในการลดอาการที่เกี่ยวข้องกับโรคข้อเข่าเสื่อมข้อเข่า เพื่อรักษาความเจ็บปวดให้ใช้ขิงผสมขมิ้นอุ่นๆ ประคบลงบนบริเวณที่ปวดวันละสองครั้ง นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มน้ำมันหอมระเหยขิงลงไปในอ่างอาบน้ำเพื่อช่วยลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อและข้อต่อ
ประโยชน์ที่ 5 ป้องกันโรคมะเร็ง
จากการศึกษาในปี พ.ศ. 2550 ที่ตีพิมพ์ใน BMC Composingary and Alternative Medicine พบว่าขิงทำให้เซลล์ตายได้ โดยทางมหาวิทยาลัยมินนิโซตาค้นพบว่าขิงสามารถชะลอการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ดังนั้นจึงช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ในระดับที่ดี ขิงยังมีความสามารถในการต่อสู้กับมะเร็งชนิดอื่น ๆ ได้แก่ โรคมะเร็งปอด มะเร็งเต้านม มะเร็งผิวหนัง มะเร็งต่อมลูกหมาก และมะเร็งตับอ่อน
ประโยชน์ที่ 6 ลดอาการปวดประจำเดือน
ขิงมีคุณสมบัติต้านการอักเสบและเป็นยาแก้ปวดตามธรรมชาติที่มีประสิทธิภาพดังนั้นจึงสามารถใช้เพื่อลดอาการปวดประจำเดือนได้ โดยสามารถดื่มชาขิงซึ่งจะช่วยให้คุณผ่อนคลายทันทีจากความเจ็บปวดและความอ่อนโยนจากตะคริวที่มักจะเกิดขึ้นในช่วงต้นของรอบเดือนประจำเดือน
Advertisements
ประโยชน์ที่ 7 ช่วยลดอาการไมเกรน
การวิจัยแสดงให้เห็นว่าขิงอาจช่วยลดอาการปวดศีรษะไมเกรนเนื่องจากความสามารถในการหยุด Prostaglandins ทำให้เกิดอาการปวดและการอักเสบในหลอดเลือด การดื่มชาขิงในขณะเกิดอาการปวดหัวไมเกรนจะป้องกันความเจ็บปวดที่ไม่สามารถทนได้ และยังสามารถหยุดอาการวิงเวียนศีรษะและคลื่นไส้ได้อีกด้วย
ประโยชน์ที่ 8 ระงับอาการไอ
ขิงสามารถใช้เพื่อบรรเทาอาการระคายเคืองของอาการเจ็บคอ นอกจากนี้ยังสามารถช่วยลดอาการไอที่มีสาเหตุมาจากโรคหวัด ความร้อนและขมของน้ำขิงสามารถช่วยขจัดเมือกจากปอดที่เป็นสาเหตุของไอ นอกจากนี้คุณยังสามารถใช้น้ำมันขิงนวดหน้าอกและแผ่นหลังเพื่อช่วยบรรเทาและรักษาอาการไอ
ประโยชน์ที่ 9 บำรุงหัวใจ
ขิงช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล ควบคุมความดันโลหิต และช่วยป้องกันเลือดจากการแข็งตัวซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจต่างๆ โดยโพแทสเซียมที่มีอยู่สูงในขิงนั้น จะเป็นตัวช่วยบำรุงหัวใจ บำรุงหลอดเลือด และบำรุงระบบทางเดินปัสสาวะได้เป็นอย่างดี
ประโยชน์ที่ 10 ควบคุมโรคเบาหวาน
ขิงสามารถช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด และเพิ่มประสิทธิภาพของอินซูลินและยาอื่นๆ ที่ใช้ในการรักษาโรคเบาหวาน ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ดื่มน้ำอุ่น 1 แก้วผสมกับขิง 1 ช้อนชาในตอนเช้าเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด นอกจากนี้ขิงยังช่วยลดภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากโรคเบาหวานได้ และช่วยลดระดับโปรตีนในปัสสาวะ ทำให้ลดความเสี่ยงของโรคประเภทต่างๆ ที่เกิดจากน้ำตาลในเลือดที่ไม่สามารถควบคุมได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งยังสามารถป้องกันเส้นประสาทในผู้ป่วยโรคเบาหวานและลดระดับไขมันในเลือดได้อีกด้วย
SOURCE : top10homeremedies
Advertisements