BeMySelf !! 4 วิธีรับมือ “เพื่อนจอมเลียนแบบ” เตือนยังไง ให้แฮปปี้ทั้งสองฝ่าย

ใครที่มีเพื่อนเป็นพวก Copy Cat เราอยากบอกว่าเข้าใจคุณจริง ๆ เพราะไม่ว่าจะก้าวเท้าไปทางไหน ไปทำอะไร หรือแต่งตัวแบบไหนก็มักจะมีคู่แฝดมาทำตามให้ชวนหงุดหงิด แต่ช้าก่อนค่ะซิสอย่าเพิ่งอาละวาดให้เสียลุค เพราะ UndubZapp มีวิธีรับมือพวกแมวจอมเลียนแบบมาฝาก

 

1. ต้องซื่อสัตย์กับตัวเองก่อนว่าคุณก็ไม่ได้ก็อปปี้เค้าเหมือนกัน

มันเป็นเรื่องปกติที่คนสนิทกันหรือใกล้ชิดกันจะมีความชอบที่เหมือนกัน ดังนั้นก่อนที่จะโวยวายตีโพยตีพายว่าใครก็อปปี้คุณนั้น ต้องตั้งสติแล้วทบทวนก่อนว่าคุณเองก็ไม่ได้กำลังเลียนแบบคนพวกนั้นเหมือนกัน เพราะงานวิจัยเกี่ยวกับพฤติกรรมแสดงให้เห็นว่าความใกล้ชิดกันสามารถทำให้เกิดพฤติกรรมเลียนแบบที่แสดงออกโดยการทำอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ เหมือนกันได้ ซึ่งสาเหตุส่วนหนึ่งของการเลียนแบบสามารถเกิดมาจากความรู้สึกชื่นชมได้ ดังนั้นคุณต้องตั้งสติดี ๆ คิดทบทวนก่อนว่าที่รู้สึกว่าโดนเลียนแบบอยู่นั้นมันคือโดนการเลียนแบบจริง ๆ ไม่ใช่คิดไปเองนะคะเบบี๋

 

2. ถ้าเหมือนแล้วรับได้ ก็เมิน ๆ มันไปจะดีกว่า

เราเข้าใจดีว่าการโดนเลียนแบบมันทำให้รู้สึกเซ็งแค่ไหน โดยเฉพาะสาว ๆ กับเรื่องเสื้อผ้าหน้าผมและไอเทมต่าง ๆ นั้น ถือได้ว่าเป็นเรื่องที่ยอมไม่ได้และไม่มีใครยอมใคร แต่ถึงอย่างนั้นหากมันไม่ได้ร้ายแรงมากขนาดที่สักรูปคล้ายกันสุด ๆ หรือแต่งรถแบบที่นึกว่ารถแฝด มันก็คุ้มหากคุณจะมองข้ามไปบ้าง เพราะการใส่ต่างหูสไตล์คล้ายกันหรือรองเท้าทรงเดียวกันมันก็ไม่ได้ร้ายแรงขนาดที่ความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อนจะต้องขาดสะบั้นขนาดนั้น…ว่ามั้ยคะซิส? เพราะฉะนั้นเพื่อชีวิตที่จะได้ไม่ดราม่ามากจนเกินไปหรือดราม่ามันได้ทุกขณะจิต คุณก็ควรจะปล่อยวางและมองข้ามบางเรื่องที่มันจิ๋ว ๆ ไปบ้าง

อย่างไรก็ตามชีวิตจริงกับชีวิตในโซเชียลนั้นไม่เหมือนกัน ในทางกลับกันหากคุณโดนเลียนแบบบนโซเชียล เช่น ใช้สไตล์การโพสต์เหมือนกันหรือเขียนคอนเทนท์ใกล้เคียงกัน ซึ่งเกี่ยวพันกับธุรกิจออนไลน์ การเมินเฉยและปล่อยวางถือว่าไม่ใช่ทางเลือกที่ดีค่ะ เพราะนั้นหมายถึงความน่าเชื่อถือและความเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ จึงไม่แปลกหากคุณจะรู้สึกโกรธ กังวลและหงุดหงิด คำแนะนำของเราคือให้คุณโพสต์เตือนแบบสะกิดให้อีกฝ่ายรู้ว่า “ชั้นรู้นะยะว่าหล่อนเลียนแบบ” แต่ไม่ต้องเอ่ยชื่อรวมถึงปิดโอกาสอีกฝ่ายด้วยออกตัวเลยว่าเพจลักษณะนี้มีของเราเจ้าเดียว

 

Advertisements

3. โยนหินถามทาง ให้คำแนะนำเนียนๆ อย่าเกรี้ยวกราด

คุณต้องลองสังเกตลักษณะท่าทางของอีกฝ่ายว่ากระบวนการลอกเลียนแบบนั้นมันมีที่มาที่ไปยังไง เช่น นางอาจจะมีการโยนหินถามทางว่า เสื้อตัวนี้ซื้อที่ไหน หรือ รองเท้าคู่นี้เจอที่ไหน แล้ววันรุ่งขึ้นก็จะปรากฎเสื้อผ้ารองเท้าที่เหมือนกับคุณเป๊ะ ๆ ออกมา หากเป็นแบบนั้นในครั้งหน้าคุณก็แค่เลี่ยงที่จะตอบคำถามเหล่านั้นไปซะ อย่าง จำไม่ได้ หรือว่ามีคนซื้อมาให้ หรือไม่ก็ใช้วิธีโยนหินถามทางกลับไป เช่น ชอบสไตล์แบบไหนหรอ? เดี๋ยวเราช่วยเหลือมั้ย? นอกจากจะไม่เสียเพื่อนแล้วคุณยังดูเป็นแม่พระ ถามสไตล์ของทั้งคุณและเพื่อนก็จะไม่เหมือนกันอีกต่อไป…เริ่ด!

 

4. หากสุด ๆ จริง ให้พูดตรง ๆ แต่อย่าใช้อารมณ์

ถ้าวิธีทั้งหมดทั้งมวลข้างต้นไม่สามารถทำให้คุณใช้ชีวิตได้อย่างแฮปปี้ หรือการลอกเลียนแบบนั้นไม่มีทีท่าว่าจะหยุด เราขอแนะนำให้คุณคุยกับเพื่อนตรง ๆ คุยแบบใช้เหตุผลและตัดความเกรี้ยวกราดทั้งมวลทิ้งไป เพราะในบางครั้งการเปิดอกคุยกันอาจทำให้เข้าใจได้มากกว่าสำหรับคนบางคน แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าอย่าคุยกันด้วยความเกรี้ยวกราดเพราะไม่งั้นมันจะพังนะคะ

 

แซ่บกันต่อ…

>> ขอพื้นที่ระบาย!! 6 พฤติกรรมชวนงง เพื่อนรักกัน เขาไม่ทำแบบนี้หรอก!!

>> ระวังเสียเพื่อนเพราะปาก 7 ประโยคที่ไม่ควรพูดกับเพื่อนสนิทให้เงิบ!!

Advertisements

Advertisements

Advertisements