ลดน้ำหนักเร่งด่วน!! เคล็ดลับปรับนาฬิกาชีวิต พิชิตห่วงยางใน 1 เดือน

ห่วงยางรอบเอวเกิดจากอะไร?

ห่วงยางรอบเอว เกิดจากการที่ร่างกายได้รับพลังงานจากอาหารมากเกินความต้องการ พูดง่ายๆ ก็คือ กินเยอะกว่าที่ร่างกายนำไปใช้ จนถูกนำไปเก็บไว้ในรูปแบบไขมันรอบเอว ถ้าอายุยังน้อย ก็ไม่น่ากังวลมาก แต่ถ้าอายุเริ่มแตะเลข 3 แล้ว ต้องหันมาใส่ใจดูแลเรื่องไขมันรอบเอวมากหน่อย เพราะเป็นช่วงที่ระบบการเผาผลาญเริ่มหย่อนประสิทธิภาพ อาจก่อให้เกิดโรคอื่นๆ ตามมา

กําจัดห่วงยางรอบเอวยังไงได้บ้าง?

วิธีการขจัดไขมันรอบเอวให้เกิดประสิทธิผล คือ กระตุ้นให้ร่างกายเผาผลาญไขมันส่วนดังกล่าวออกไป ทำได้ง่ายๆ ดังนี้

1. ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน

• จำกัดปริมาณอาหารที่กิน กินแต่พอดี ไม่กินตามใจปาก
• เน้นกินอาหารประเภทโปรตีนดีเป็นหลัก เพื่อกระตุ้นการเผาผลาญ
• เพิ่มการกินอาหารที่มีกากใย ทำให้รู้สึกอิ่มนานขึ้น อยากอาหารน้อยลง
• ลดความถี่ในการกินอาหารแปรรูป ลดการกักตุนของไขมัน
• งดอาหารและเครื่องดื่มแคลอรีสูง

2. ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการออกกำลังกาย

• ขยับร่างกายให้มากขึ้น นั่งๆ นอนๆ อยู่กับที่นานๆ ให้น้อยลง
• เลิกออกกำลังกายเฉพาะจุด เน้นออกกำลังกายทั่วร่างกาย
• ออกกำลังกายเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ
• เพิ่มการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ เร่งการเบิร์นแคลอรี
• เล่นเวทสร้างกล้ามเนื้อ เพิ่มอัตราเผาผลาญไขมัน

3. ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต

• ลด ละ เลิก การนอนดึกตื่นเช้า และการอดหลับอดนอน
• นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายได้ฟื้นฟู
• หากิจกรรมทำเพื่อผ่อนคลายความเครียดเป็นนิจ
• ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
• มีวินัยในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมต่างๆ ไม่ทำๆ หายๆ

ปรับนาฬิกาชีวิต พิชิตห่วงยางรอบเอว

สำหรับคนที่ต้องการขจัดห่วงยางรอบเอวและลดน้ำหนักแบบเห็นผลไว โดยไม่ต้องอดอาหาร ขอแนะนำ “สูตร 6-7-8” สูตรลดน้ำหนักสุดอีซี่ ด้วยการรับรองผลจาก “นายแพทย์บัญชา แดงเนียม” ผู้เขียนหนังสือ “นาฬิกาชีวิต สูตรลับหุ่นดี” สามารถทำตามได้ทุกเพศทุกวัย เพราะเป็นวิธีที่ปลอดภัย ไม่เสี่ยงอันตรายจากการใช้ยาลดความอ้วน แถมได้สุขภาพดีเป็นของแถม

สูตร 6-7-8 ทำตามนี้ หุ่นดีแน่

สูตร 6-7-8 คือ สูตรผอมของคนตื่นเช้า เป็นเทคนิคพิชิตความอ้วนยามเช้า เพียงแค่ปฏิบัติตนเองให้เหมาะกับการทำงานของนาฬิกาชีวิต ได้แก่ ตื่น-ฟิต-กิน ในช่วงเวลา 06:00 น. เวลา 07:00 น. และ เวลา 08:00 น. ตามลำดับ มีรายละเอียดเพิ่มเติม ดังนี้

เวลา 06:00 น.

เวลาหกโมงเช้าเป็นเวลาที่ควรตื่นนอน เข้าห้องน้ำขับถ่ายของเสีย และลุกขึ้นมายืดเส้นยืดสาย ออกกำลังกายเบาๆ เช่น เล่นโยคะ ปั่นจักรยาน เดินเร็ว ประมาณ 30 – 60 นาที เนื่องจากช่วงที่ตื่นนอนใหม่ๆ ระดับน้ำตาลในเลือดจะน้อย ถ้าเราตื่นขึ้นมาออกกำลังกายในตอนเช้า ร่างกายจะดึงไขมันที่สะสมไว้ รวมถึงพลังงานจากน้ำตาลอย่างเต็มที่ กระตุ้นให้เผาผลาญดีตลอดทั้งวัน

เวลา 07:00 น.

เวลาเจ็ดโมงเช้าเป็นเวลาที่ควรหยุดออกกำลังกาย และอาบน้ำเย็น กระตุ้นให้เกิดการเผาผลาญไขมัน แต่ยังไม่ควรกินอาหารใดๆ หลังออกกำลังกาย นอกจากน้ำเปล่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารจำพวกแป้งและน้ำตาล มิฉะนั้น ร่างกายจะหยุดกระบวนการเผาผลาญ และเริ่มสะสมไขมันจากอาหารที่กินเข้าไปแทน ควรรอเวลาประมาณ 30 นาที – 1 ชั่วโมง จึงค่อยกินมื้อเช้า

เวลา 08:00 น.

เวลาแปดโมงเช้าเป็นเวลาที่ควรกินอาหารเช้า เติมพลังงานให้กับร่างกาย แนะนำให้กินอย่างมีสติ เคี้ยวช้าๆ ไม่กินไปดูทีวีหรือเล่นโทรศัพท์ไป เพราะอาจทำให้ลืมใส่ใจเรื่องการกินแต่พออิ่ม การกินมื้อเช้ายังช่วยให้ความอยากอาหารในมื้อถัดไปลดลง ทำให้ไม่รู้สึกหิวบ่อย ทางที่ดีควรกินแป้งแต่พอดี กินโปรตีนเป็นหลัก ทานอาหารให้หลากหลาย เพื่อให้ร่างกายได้สารอาหารครบถ้วน ของหวาน กาแฟ ชา สามารถกินได้ แต่ถึงอย่างไรก็ควรจำกัดให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสม