UndubZapp ขอชวนเพื่อนๆ ทุกคนมาเอาชนะโรคภูมิแพ้ ด้วยการทำความรู้จักวัคซีนภูมิแพ้ชนิดอมใต้ลิ้น ACARIZAX ทางเลือกใหม่ในการรักษาโรคภูมิแพ้ ซึ่งยาดังกล่าวถูกจัดอยู่ในกลุ่มยาควบคุมพิเศษ มีใช้เฉพาะในโรงพยาบาล และต้องสั่งจ่ายโดยแพทย์ผู้ชำนาญการเท่านั้นนะคะ ถ้าเพื่อนๆ ต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติมก่อนเข้าปรึกษากับแพทย์ เลื่อนลงไปด้านล่างเพื่ออ่านรายละเอียดเกี่ยวกับวัคซีนภูมิแพ้ชนิดอมใต้ลิ้นได้เลยค่ะ
ยานี้คือยาอะไร
- ยานี้มีชื่อสามัญว่า สารสกัดไรฝุ่นบ้าน มีสองชนิดรวมกัน คือ สายพันธุ์ Dermatophagoides pteronyssinus และ Dermatophagoides farina เป็นยาในกลุ่มรักษาภูมิแพ้
- ยานี้ใช้รักษาโรคเยื่อบุโพรงจมูกอักเสบที่แพทย์วินิจฉัยแล้วว่าเกิดจากการแพ้ไรฝุ่นบ้านบางชนิด ในผู้ป่วยอายุ 12-65 ปี
- ยานี้ใช้รักษาโรคหอบหืดที่แพทย์วินิจฉัยแล้วว่าเกิดจากการแพ้ไรฝุ่นบ้านบางชนิดในผู้ป่วยอายุ 18-65 ปี
*การใช้ยานี้จะต้องสั่งจ่ายโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ทางด้านการรักษาโรคภูมิแพ้เท่านั้น
ข้อควรรู้ก่อนใช้ยา
- ใช้ยาครั้งแรกต้องใช้ต่อหน้าแพทย์หรือพยาบาล และดูอาการต่ออย่างน้อย 30 นาทีหลังจากใช้ยา
ห้ามใช้ยานี้เมื่อไร
- เมื่อเคยแพ้ยานี้ หรือส่วนประกอบในยานี้ เช่น เจลาตินจากปลา แมนนิทอล และ โซเดียมไฮดรอกไซด์
- เคยเป็นโรคหอบหืดรุนแรง ใน 3 เดือนก่อน
- กำลังกินยากดภูมิคุ้มกันหรือยารักษามะเร็ง
- เพิ่งถอนฟัน ผ่าตัดในช่องปาก มีแผลในช่องปาก หรือมีการติดเชื้อในช่องปาก
ข้อควรระวังเมื่อใช้ยานี้
ควรแจ้งแพทย์ในกรณีต่อไปนี้
Advertisements
- กำลังใช้ยารักษาอาการภูมิแพ้ เช่น ยาต้านฮิสตามีน ยารักษาอาการหอบหืด หรือ สเตียรอยด์
- มีอาการซึมเศร้าและต้องใช้ยาต้านซึมเศร้า
- เคยมีอาการแพ้รุนแรงหลังได้รับการฉีดสารก่อภูมิแพ้ของไรฝุ่นบ้าน
- เคยแพ้อาหารจำพวกปลา
- เคยมีอาการแสบร้อนกลางอกที่นานกว่าปกติ หรืออาการกลืนลำบาก
- กำลังตั้งครรภ์ ไม่ควรเริ่มใช้ยานี้ในช่วงตั้งครรภ์ หากพบว่าตั้งครรภ์ภายหลัง ควรปรึกษาแพทย์
- กำลังให้นมบุตร โปรดปรึกษาแพทย์หากใช้ยาในช่วงให้นมบุตร
วิธีการกินยา
- อมใต้ลิ้น ครั้งละ 1 เม็ดต่อวัน
- ห้ามกลืนน้ำลาย อย่างน้อย 1 นาที
- ห้ามรับประทานอาหารและเครื่องดื่ม หลังจากรับประทานยาอย่างน้อย 5 นาที
หากลืมใช้ยาควรทำอย่างไร
- ให้ใช้ยาทันทีที่นึกได้ในวันนั้น ไม่ควรใช้ยา 2 เม็ดในวันเดียวกัน
- หากลืมใช้ยานานเกินกว่า 7 วัน โปรดติดต่อแพทย์ก่อนกลับมาเริ่มใช้ยาอีกครั้ง
ถ้าใช้ยานี้เกินขนาดที่แนะนำควรทำอย่างไร
- หากใช้ยาเกินขนาดอาจได้รับผลข้างเคียงมากขึ้น เช่น อาการแพ้ที่ปากและลำคอ หากเกิดอาการแพ้รุนแรง ให้รีบพบแพทย์หรือนำส่งโรงพยาบาลทันที
ข้อควรปฏิบัติระหว่างใช้ยา
- ใช้ยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด หากอาการแย่ลง หรือมีผลข้างเคียงจากยาที่ทนไม่ได้ให้แจ้งแพทย์
- การรักษาต้องใช้ระยะเวลาประมาณ 8 ถึง 14 สัปดาห์ จึงจะเริ่มเห็นผล
- พบแพทย์ตามนัดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อติดตามผลการรักษาหรืออันตรายจากยา
- แจ้งแพทย์หรือทันตแพทย์ ว่ากำลังใช้ยานี้หากต้องผ่าตัดในช่องปากหรือถอนฟัน
- แจ้งแพทย์หากเกิดอาการแพ้บริเวณปากหรือช่องปากรุนแรง หรือทนต่ออาการแพ้ไม่ได้ แพทย์อาจให้ยาต้านอาการแพ้ เช่น ยาต้านฮิสตามีน เพื่อลดอาการที่เกิดขึ้น
- อาการข้างเคียงที่เกิดขึ้นมักหายภายในไม่กี่นาทีหรือไม่กี่ชั่วโมงหลังจากใช้ยา และผลข้างเคียงจะลดลงหลังจากใช้ยาไปประมาณ 1-3 เดือน
- ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรหากพบอาการข้างเคียงอื่นๆ ที่ไม่ได้ระบุไว้ในเอกสารนี้
อันตรายที่อาจเกิดจากยา
หากใช้แล้วเกิดอาการ เช่น
- อาการหอบหืดที่เป็นอยู่แย่ลงจากปกติ
- มีอาการแพ้ขั้นรุนแรง เช่น กลืนลำบาก หายใจลำบาก เสียงเปลี่ยน ความดันโลหิตต่ำ รู้สึกจุกแน่นที่คอ อาการบวมบริเวณหน้า ช่องปาก ช่องคอ หรือ ผิวหนัง
- มีอาการลมพิษและอาการคันที่ผิวหนัง “ต้องหยุดยารีบไปพบแพทย์ทันที”
หากใช้ยาแล้วเกิดอาการเช่น
- รู้สึกคันภายในช่องคอ ปาก ลิ้น หรือ หู
- มีอาการบวม อักเสบ แสบร้อน บวมแดงบริเวณริมฝีปาก ลิ้น ช่องคอ แผลในปาก เจ็บภายในช่องปาก
- รู้สึกเหมือนมีเข็มทิ่ม หรือ รู้สึกชา ภายในช่องปากหรือลิ้น
- เสียงแหบ ปากแห้ง กลืนลำบาก การรับรสเปลี่ยนไป
- ต่อมทอนซิล ต่อมน้ำลาย ขยายใหญ่ขึ้น หรือหลั่งน้ำลายมากขึ้น
- ตาอักเสบ คันตา
- รู้สึกไม่สบายช่องหู จมูก คัดจมูก น้ำมูกไหล จาม หอบหืด ติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ
- รู้สึกปวดหรือรู้สึกไมสบายกระเพาะอาหาร ระคายเคืองหลอดอาหาร รู้สึกอาหารไม่ย่อย แสบร้อนกลางอก
- เวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย
- รู้สึกเหนื่อย แน่นหน้าอก การเต้นของหัวใจผิดปกติไป
- รู้สึกไม่สบายเนื้อไม่สบายตัว
- ผิวหนังแดง รู้สึกเหมือนมีอะไรทิ่มที่ผิวหนัง “ให้รอดูอาการ แต่ถ้ามีอาการรุนแรงควรไปพบแพทย์”
Advertisements