7 วิตามิน ซี ยี่ห้อ ไหนดี เสริมภูมิคุ้มกัน ปี 2022

 

พลาดพลั้งไป ติดเชื้อไวรัสเข้าวันไหน ถ้าภูมิคุ้มกันยังดี อาการน้อยหรือแทบไม่มีอาการก็เตรียมใจทำ Home isolation หรือหิ้วกระเป๋าเข้า hospitel กันไป แต่ถ้าแจ็คพ็อตแตก เชื้อลงปอด ก็ต้องจอดนอนโรงพยาบาลรักษาตามอาการ ไปลุ้นกันอีกรอบว่าภูมิคุ้มกันของเรากับเชื้อโรคใครจะแข็งแรงกว่ากัน

 

ภาระอันหนักอึ้งของระบบภูมิคุ้มกันยังไม่จบในซีซั่นนี้ง่ายๆ ล่าสุด เรายังได้ลุ้นกันต่อกับภาวะ Long COVID  หรืออาการที่หลงเหลืออยู่หลังหายจากการติดเชื้อ เช่น ไอ มีไข้ อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ฯลฯ ที่พร้อมจะอยู่กับเรานานกว่าระยะที่ป่วยติดเชื้อ

ยิ่งปล่อยเอาไว้นานก็ยิ่งส่งผลกระทบกับสุขภาพร่างกายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นถ้าไม่อยากเข้าวงการป่วยกระเสาะกระแสะ ยิ่งต้องใส่ใจเรื่องภูมิคุ้มกันเป็นพิเศษ

 

วิตามิน ซี 1000 mg หนึ่งในตัวช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ไม่ป่วยง่าย

ภูมิคุ้มกันเปรียบได้ดั่งการสร้างปราการด่านแรกให้ร่างกายไว้ใช้จัดการกับเชื้อโรค เชื้อไวรัส แบคทีเรีย หรือสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกาย แน่นอนว่าหนึ่งในทางเลือกสุด easy คือ เสริมด้วยวิตามินซี ที่มีปริมาณวิตามิน ซี 1000 mg ช่วยเพิ่มความแข็งแรงเม็ดเลือดขาว ทำให้เม็ดเลือดขาวสามารถกำจัดเชื้อโรคต่างๆ ที่เข้าสู่ร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ใครที่ป่วยบ่อย เป็นหวัดง่าย หรือเป็นภูมิแพ้อากาศบ่อย เหมาะมากค่ะ

 

วิตามิน ซี มากแค่ไหน?…ถึงดีต่อภูมิคุ้มกัน ภูมิแพ้อากาศ ป่วยบ่อย

ทำไมเราต้องแคร์กับปริมาณวิตามินซีกันด้วย? จริงๆ แล้วเราใช้ประโยชน์วิตามินซีหลากหลายด้าน เรื่องผิวพรรณ ความงาม สุขภาพ และเสริมภูมิคุ้มกัน ซึ่งปริมาณที่จะไปตอบโจทย์ความต้องการก็จะแตกต่างกันไป

 

•  ต้องการบำรุงสุขภาพ บำรุงผิวพรรณ ปริมาณวิตามินซีที่แนะนำ วันละ 500 – 1,000 มิลลิกรัม
• ใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางมลภาวะและฝุ่นควัน ปริมาณวิตามินซีที่แนะนำ วันละ 1,000 มิลลิกรัม
• ร่างกายอ่อนแอ เป็นภูมิแพ้ หรือเป็นภูมิแพ้ อากาศบ่อย ปริมาณวิตามินซีที่แนะนำ วันละ 1,000 – 2,000 มิลลิกรัม
• เสริมภูมิคุ้มกัน ป้องกันหวัด เพิ่มการทำงานเม็ดเลือดขาว ปริมาณวิตามินซีที่แนะนำ วันละ 1,000 – 3,000 มิลลิกรัม

ซื้อวิตามินซีให้ได้ประโยชน์ เลือกอย่างไร?

-ปริมาณที่ใช่กับการเสริมภูมิคุ้มกัน ดูฉลากให้ดี เพราะคุณอาจกินวิตามิน ซี 1000 mg  แต่ร่างกายอาจได้รับเพียงน้อยนิด นั่นเพราะวิตามินซีอายุสั้น เสื่อมสภาพง่าย รวมถึงร่างกายเราก็มีจุดอิ่มตัวในการดูดซึมวิตามินซีต่ำ วิตามินซีบางยี่ห้อจึงใส่สารประกอบธรรมชาติอื่นๆ สารไบโอฟลาโวนอยด์, รูติน, เฮสเพอริติน เข้ามาช่วยยืดอายุวิตามินซี และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมให้ดีขึ้น แต่บางการศึกษายังไม่พบประโยชน์ของไบโอฟลาโวนอยด์ในการช่วยเพิ่มการดูดซึมของวิตามินซีเช่นกัน

 

-บรรจุภัณฑ์ที่ช่วยรักษาสภาพ เพราะวิตามินซีบอบบาง ไม่ทนความร้อน แสงแดด ดังนั้นบรรจุภัณฑ์ที่เก็บรักษาวิตามินซี ควรเป็นบรรจุภัณฑ์ที่ทึบแสงหรือแสงไม่สามารถส่องผ่านได้

 

-ผ่านการรับรองมาตราฐานการผลิต เช็กเรื่องการผลิตที่ได้มาตรฐาน อย  มาตรฐาน GMP การระบุสถานที่ผลิตที่ชัดเจน มีวันเดือนปีที่ผลิต และวันที่ยาสิ้นอายุระบุชัดเจนหรือถ้าได้รับมาตรฐานการรับรองระดับสากลหรือจากต่างประเทศด้วยจะดีงามมากๆ

 

-คุ้มค่ากับราคาที่จ่าย สายช้อปยุคนี้ อย่าดูแค่ราคา อย่ามั่นใจแค่ชื่อแบรนด์ แต่ต้องมั่นใจว่าเลือกวิตามินซีคุณภาพสูง ที่ให้ประโยชน์และปลอดภัยสูงสุด ถือว่าคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป

 

7 วิตามิน ซี 1000 mg ยี่ห้อไหนดี เสริมภูมิคุ้มกัน ปี 2022

UndubZapp ขออาสาพาทุกคนมาเปิดรีวิวจุกๆ ให้ดูจังๆ ว่า วิตามินซี ยี่ห้อไหนดี ช่วยอัปเกรดสุขภาพให้ห่างไกลจากเชื้อโรค ไวรัส แบคทีเรีย หวัด ฝุ่นละอองขนาดเล็ก และอาการภูมิแพ้อากาศ  มาเริ่มกันเลยค่ะ!

 

มาดูหน้าตาวิตามิน ซี ทั้งหมดที่เราจะรีวิววันนี้กันก่อนค่ะ น้องๆ จะหน้าตาแบบนี้นะคะ

 

อันดับ 1 🟠 MEGA We care NAT-C

เริ่มกันที่แนท-ซี น้องวิตามิน ซี 1000 mg คนดัง ขวัญใจคนรักสุขภาพ

ดูหน้าตาอย่างเดียวไม่ได้นะคะ มาดูฉลากกันด้วยค่ะ

ผู้บริโภคยุคใหม่ใส่ใจสุขภาพอย่างพวกเรา ต้องขยันเปรียบเทียบข้อมูลสินค้าก่อนตัดสินใจเลือกซื้อนะคะ 😉

 

ฉลากด้านนี้ระบุส่วนประกอบ ใน 1 เม็ด ซึ่งประกอบด้วยสารสำคัญเหล่านี้ค่ะ เดี๋ยวเราจะสรุปให้เพื่อนๆ ดูกันชัดๆ อีกทีนะคะว่ามีอะไรบ้าง

ฉลากอีกด้านของบรรจุภัณฑ์จะหน้าตาประมาณนี้นะคะ

ระบุข้อมูลผู้ผลิต วันที่ผลิต รวมถึงวันที่ยาสิ้นอายุไว้ชัดเจนทั้งข้อมูลทั้งตัวเลขไม่เลือนรางแบบนี้นับว่าดีต่อใจค่ะ 👍

เปิดฝามาจะเจอเม็ดยาอุ่นหนาฝาคั่งเบอร์นี้ ส่วนตัวเราค่อนข้างว้าวซ่าตรงที่น้องวิตามิน ซี ของแนท-ซี แทบไม่มีกลิ่นเลยค่ะ

ตัวเม็ดยาใหญ่พอสมควร คนที่กินยากน่าจะลำบากนิดนึง แต่ที่เก๋กู๊ด คือตัวเม็ดทำรอย สามารถหักครึ่ง กินง่ายขึ้นเยอะเลย ทีนี้ก็มาดูข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับตัวยากันบ้าง

 

เราขอสรุปเป็นข้อๆ เพื่อความสบายตาของเพื่อนๆ นะคะ

 

📋 รายละเอียดผลิตภัณฑ์ Mega We care NAT-C

• ขนาดบรรจุ: 150 เม็ด ราคา 839 บาท (ราคาต่อเม็ด 5.50บาท)
• บรรจุภัณฑ์: ขวดพลาสติกทึบแสง สามารถกรองแสงได้ 100% หุ้มซีลพลาสติกทั้งขวด ซีลปากขวด ฝาแบบเกลียวหมุน ปิดได้แน่นสนิท
• ลักษณะเม็ด: วิตามินซี แบบอัดเม็ดเคลือบผิว
• ปริมาณสารสำคัญ:

 

💊→ วิตามิน ซี 1000mg

💊→ (จากแอสคอร์บิค แอซิด 400 mg)

💊→ โซเดียมแอสคาร์เบต 350 mg (เทียบเท่ากับแอสคอร์บิค แอซิด 300 mg)

💊→ แคลเซียมแอสคอร์เบต 400 mg (เทียบเท่ากับแอสคอร์บิค แอซิด 300 mg)

💊→ ซิตรัสไบโอฟลาโวนอยด์ 50 mg

💊→ รูติน 50 mg

💊→ เฮสเพอริดิน 50 mg

💊→ ผงสกัดแห้งจากโรสฮิพ 62.5 mg (เทียบเท่ากับโรสฮิพ 250 mg)

💊→ ผงสกัดแห้งอะวิโรล่า 12.5 mg (เทียบเท่ากับอะเซโรล่า 50 mg)

 

• ความน่าเชื่อถือ: ผลิตโดยบริษัทเมก้า ไลฟ์ไซแอ็นซ์ พีทีวาย จำกัด ซึ่งไว้ใจได้ในเรื่องของคุณภาพและมาตรฐานการผลิต เนื่องจากเป็นโรงงานผลิตยาแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทยที่ผ่านการรับรองมาตรฐานการผลิต (GMP) ระดับสากลถึง 2 สถาบัน ด้วยกัน คือ TGA จากประเทศออสเตรเลีย และ BfArM จากประเทศเยอรมัน
• ความคุ้มค่า: 5/5 ดาว ⭐⭐⭐⭐⭐
• ความคิดเห็น:

✔️ ปริมาณสารสำคัญเหมาะสมกับสถานการณ์การดูแลสุขภาพในบ้านเรา

✔️ บรรจุภัณฑ์สะอาด ปลอดภัย ผลิตจากโรงงานผลิตยาที่ได้มาตรฐานระดับสากล

✔️ ราคาเฉลี่ยต่อเม็ดเป็นมิตรต่อกระเป๋าสตางค์ คุ้ม!

 

 

อันดับ 2 🟠 MEGA We care NAT-C Ester

 

มาต่อกันที่น้องแนท-ซี คนเดิม เพิ่มเติมคือเป็นแบบผง ชงง่าย ดื่มง่าย คูณสอง ✌️😊

ส่องรอบกล่องกันเล็กน้อยนะคะ ข้อมูลฝั่งนี้ระบุส่วนประกอบใน 1 ซอง (2.52 กรัม) ซึ่งประกอบด้วยสารสำคัญแต่ละชนิดไว้ค่ะ

ข้อมูลฝั่งนี้ระบุวันที่ผลิต วันสิ้นอายุ และชื่อผู้ผลิตไว้อย่างชัดเจน

พอเปิดกล่องมาจะเจอน้องวิตามินซี แบบผง หน้าตาแบบนี้ค่ะ นอนเรียงกันมาเป็นระเบียบเรียบร้อยมั่กๆ ภายใน 1 กล่อง จะมีทั้งหมด 30 ซอง นะคะ เท่ากับว่ากล่องนึงกิน

ได้ตั้งหนึ่งเดือนแน่ะ

วิธีกินก็แสนจะง่ายดายค่ะ แค่ละลายผงยา  1 ซอง ลงในน้ำ 1 แก้ว  ดื่มวันละ 1 ครั้ง คนทำงานหัวหมุนทั้งวันอย่างเราถูกใจสิ่งนี้ยิ่งนัก 😘

📋 รายละเอียดผลิตภัณฑ์ Mega We care NAT-C Ester

• ขนาดบรรจุ: 30 ซอง ราคา 430 บาท (ราคาต่อซอง 15 บาท)
• บรรจุภัณฑ์: กล่องกระดาษ ภายในบรรจุซองทึบแบบแยก 30 ซอง
• ลักษณะเม็ด: วิตามินซี แบบผง
• ปริมาณสารสำคัญ:

 

💊→ แคลเซียม แอสคอร์เบต ซึ่งให้วิตามิน ซี (แอสคอร์บิค แอซิด) 1000 mg

💊→ เลมอน ไบโอฟลาโวนอยด์ คอมเพล็กซ์ 71.45 mg

 

• ความน่าเชื่อถือ: ผลิตโดยบริษัทเมก้า ไลฟ์ไซแอ็นซ์ พีทีวาย จำกัด ซึ่งไว้ใจได้ในเรื่องของคุณภาพและมาตรฐานการผลิต เนื่องจากเป็นโรงงานผลิตยาแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทยที่ผ่านการรับรองมาตรฐานการผลิต (GMP) ระดับสากลถึง 2 สถาบัน ด้วยกัน คือ TGA จากประเทศออสเตรเลีย และ BfArM จากประเทศเยอรมัน
• ความคุ้มค่า: 5/5 ดาว ⭐⭐⭐⭐⭐
• ความคิดเห็น:

✔️ ปริมาณสารสำคัญเหมาะสมกับสถานการณ์การดูแลสุขภาพในบ้านเรา

✔️ บรรจุภัณฑ์สะอาด ปลอดภัย ผลิตจากโรงงานผลิตยาที่ได้มาตรฐานระดับสากล

✔️ ชงง่าย กินง่าย อร่อย รสส้ม และพกพาสะดวก

✔️ เป็นสูตรพิเศษที่ไม่มีความเป็นกรดเลย เนื่องจากสารสำคัญเป็น แคลเซียมแอสคอเบต ทำให้ไม่ระคายเคืองกระเพาะอาหาร เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคกระเพาะ หรือมีความไวต่อกรด โดยเฉพาะ ผู้สูงอายุ และเด็ก

✔️ เป็นสูตรที่ไม่มีน้ำตาล ไม่มีแคลอรี่ เหมาะกับทุกเพศ ทุกวัย

 

อันดับ 3 🟠 Blackmores Bio C

 

ลำดับถัดไปคือน้องวิตามิน ซี 1,000 มก. คนนี้ค่ะ

หลายๆ คนอาจจะเคยได้ยินชื่อมาบ้าง ไม่มากก็น้อย

ไปดูกันต่อค่ะว่าฉลากด้านอื่นๆ ของน้องแนะนำอะไรบ้าง

ฝั่งนี้เป็นข้อมูลพอสังเขป วิธีใช้ และวิธีเก็บรักษา

ตัวหนังสือค่อนข้างใหญ่ อ่านง่าย ฉลากไม่เลือนรางค่ะ

ส่วนฝั่งนี้จะเป็นส่วนประกอบสำคัญใน 1 เม็ด

เราจะเขียนเป็นข้อๆ ให้เพื่อนๆ อ่านง่ายสบายตาด้านล่างอีกทีนะคะ

เปิดมาจะเจอตัวยาอวบอ้วนแบบนี้ พร้อมกับกลิ่นค่ะ 😭

ขออนุญาตหัก 1 คะแนน เพราะไม่ชอบกลิ่นน้องเลยค่ะ

เตือนนิดนึงนะคะว่า ใครกินยายากเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

เจอกลิ่นแบบนี้เข้าไปก็นับว่างานหินอยู่ค่ะ

ถ้าไม่ซีเรียสเรื่องกลิ่นมากนัก น้องก็นับว่าอยู่ในไซส์ปกติค่ะ

📋 รายละเอียดผลิตภัณฑ์ Blackmores Bio C

• ขนาดบรรจุ: 62 เม็ด ราคา 399 บาท (ราคาต่อเม็ด 6.4 บาท)
• บรรจุภัณฑ์: ขวดแก้วสีชา ไม่ทึบแสง หุ้มซีลพลาสติกเฉพาะตัวขวด ไม่มีซีลห่อหุ้มปากขวด ฝา ปิดแบบสูญญากาศ ปิดได้แน่นสนิทพอสมควร (⚠️ ข้อควรรู้: วิตามินซี ไม่ทนต่อความร้อนและแสงแดด ควรบรรจุในขวดหรือแผงทึบที่มองไม่เห็นตัวยาเท่านั้น)
• ลักษณะเม็ด: วิตามิน ซี แบบอัดเม็ดเคลือบผิว
• ปริมาณสารสำคัญ:

 

💊→ วิตามินซี 1,000 มก. (ในรูปแบบแอสคอร์บิค แอซิด 400 มก. , โซเดียมแอสคอร์เบท 350 มก. , แคลเซียม แอสคอร์เบท 400 มก.)

💊→ โรสฮิพ ดราย ฟรุท 250 มก. (ในรูปโรซา คานินา ฟรุท เอ็กซ์แทรคท์ 41.7 มก.)

💊→ ไบโอฟลาโวนอยด์ 20 มก.

💊→ รูทิน 50 มก.

💊→ เอสเพอริดิน 50 มก.

💊→ อะซีโรลา ดราย ฟรุท 50 มก. (ในรูปมัลพิเจีย กลาบรา ฟรุท เอ็กซ์แทรคท์ 12.5 มิลลิกรัม)

 

• ความน่าเชื่อถือ: ผลิตโดยบริษัท แบลคมอร์ส ประเทศออสเตรเลีย ได้รับการยอมรับอย่างยาวนาน ผลิตตามข้อกำหนดและมาตรฐานระดับสากลที่ควบคุมโดยประเทศออสเตรเลีย โดดเด่นในเรื่องคัดเลือกวัตถุดิบที่มีคุณภาพสูง
• ความคุ้มค่า: 4/5 ดาว ⭐⭐⭐⭐
• ความคิดเห็น:

✔️ ปริมาณสารสำคัญเหมาะสมกับสถานการณ์การดูแลสุขภาพในบ้านเรา

✔️ ผลิตจากโรงงานผลิตยาที่ได้มาตรฐานระดับสากล

❌ ขวดบรรจุภัณฑ์มองเห็นวิตามิน ซีได้ ไม่ทึบแสง อาจเป็นเหตุให้ประสิทธิภาพเสื่อมลง

❌ วิตามิน ซี นำเข้าทั้งขวด ไม่ได้ผลิตในไทย ราคาเฉลี่ยต่อเม็ดถือว่าสูง

Advertisements

❌ กลิ่นตัวยาค่อนข้างแรง อาจไม่ถูกใจคนทานยายาก

 

 

อันดับ 4 🟠 Blackmores Bio C Acerola PLUS

 

ต่อมาเป็นคิวของน้องแบลคมอร์สตัวน้อย หน้าตาคล้ายๆ กับคนเมื่อกี้ แต่ส่วนประกอบต่างกันค่ะ ซึ่งปริมาณสารสำคัญหลัก คือ ผลอะซีโรลา เชอร์รี่ 1500 มก. ซึ่งให้วิตามินซี เพียง 100 -200 mg ต่อเม็ด อาจจะไม่เพียงพอสำหรับเสริมภูมิคุ้มกัน ซึ่งแนะนำขนาด 1,000-3,000 ต่อวัน เหมาะกับการรับประทานเพื่อประโยชน์ด้านผิวพรรณจะเหมาะสมกว่า

ส่องฉลากกันก่อนนะคะ ด้านนี้จะเป็นข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับตัวยา วิธีใช้แล้วก็วิธีเก็บรักษาค่ะ ตัวหนังสือค่อนข้างใหญ่ อ่านง่ายค่ะ

ด้านนี้จะระบุส่วนประกอบสำคัญใน 1 เม็ด ฉลากเป็นฉลาก 2 ชั้นนะคะ สามารถเปิดแล้วปิดกลับเพื่ออ่านข้อมูลตัวยาเพิ่มเติมได้ด้วยค่ะ

เปิดออกมา หน้าตาน้องๆ ก็จะเป็นแบบนี้ แล้วก็จะมีกลิ่นยาลอยมาด้วยนะคะ ถ้าถามอะฮั้นนั้น… ไม่ไหวกับกลิ่นเหมียนเดิมค่ะ 😭

ตัวยาเป็นสีขาว ไซส์เท่าแคปซูล ถ้าไม่ติดเรื่องกลิ่นก็นับว่ากินง่ายค่ะ

📋 รายละเอียดผลิตภัณฑ์  Blackmores Bio C Acerola PLUS

• ขนาดบรรจุ: 40 เม็ด ราคา 290 บาท (ราคาต่อเม็ด 7.25 บาท)
• บรรจุภัณฑ์: ขวดแก้วสีชา ไม่ทึบแสง หุ้มซีลพลาสติกเฉพาะตัวขวด ไม่มีซีลห่อหุ้มปากขวด ฝา ปิดแบบสูญญากาศ ปิดได้แน่นสนิทพอสมควร (⚠️ ข้อควรรู้: วิตามินซี ไม่ทนต่อความร้อนและแสงแดด ควรบรรจุในขวดหรือแผงทึบที่มองไม่เห็นตัวยาเท่านั้น)
• ลักษณะเม็ด: วิตามินซี แบบอัดเม็ดเคลือบผิว
• ปริมาณสารสำคัญ:

 

💊→ สารสกัดจากโรสฮิพ (จากผลโรสฮิพ 600 mg) 100 mg

💊→ ผงน้ำอะซีโรลา (จากผลอะซีโรลา เชอร์รี่ 1500 mg)

💊→ สารสกัดจากเมล็ดองุ่น 50 mg (จากเมล็ดองุ่น 600 mg)

💊→ สารสกัดจากชาขาว (จากใบชาขาว 150 mg)

💊→ ผงผลมะกอกเข้มข้น (10 mg)

💊→ วิตามิน อี 10 mg (จากดี-แอลฟา-โทโคเฟอริลแอซิกซักซิเนต 12.31 mg)

💊→ สังกะสี 10 mg (จากซิงค์ ซิเตรต ไดไฮเดรต 31.95 mg)

💊→ ซีลิเนียม (จากซิลิโนเมทไธโอนีน 173.8 มคก.) 70 มคก.

 

• ความน่าเชื่อถือ: ผลิตโดยบริษัท แบลคมอร์ส ประเทศออสเตรเลีย ได้รับการยอมรับอย่างยาวนาน ผลิตตามข้อกำหนดและมาตรฐานระดับสากลที่ควบคุมโดยประเทศออสเตรเลีย โดดเด่นในเรื่องคัดเลือกวัตถุดิบที่มีคุณภาพสูง
• ความคุ้มค่า: 4/5 ดาว ⭐⭐⭐⭐
• ความคิดเห็น:

✔️ ผลิตจากโรงงานผลิตยาที่ได้มาตรฐานระดับสากล

❌ ปริมาณสารสำคัญคือ Acerola cherry 1500 mg ซึ่งให้วิตามินซี เพียง 100 -200 mg ต่อเม็ด อาจจะไม่เพียงพอสำหรับเสริมภูมิคุ้มกัน

❌ ขวดบรรจุภัณฑ์มองเห็นวิตามิน ซีได้ ไม่ทึบแสง อาจเป็นเหตุให้ประสิทธิภาพเสื่อมลง

❌ วิตามินซี นำเข้าทั้งขวด ไม่ได้ผลิตในไทย ราคาเฉลี่ยต่อเม็ดถือว่าสูง

❌ กลิ่นตัวยาค่อนข้างแรง อาจไม่ถูกใจคนทานยายาก

 

 

อันดับ 5 🟠 Vistra Bio-C

 

ตามมาดูกันต่อแบบไม่ต้องเสียเวลาพักเบรกได้เลยค่ะ ลำดับถัดมาจะเป็นน้องวิสทร้า ไบไอซี (ชื่อสูตรคล้ายๆ กับข้างบน ระวังสับสนยี่ห้อนะคะ)

รายละเอียดส่วนประกอบตัวยาจะประมาณนี้ค่ะ ตัวหนังสืออ่านง่าย รายละเอียดชัดเจนดีค่ะ

ตรงส่วนนี้จะเป็นวิธีกิน วิธีเก็บรักษา รวมถึงข้อมูลผู้ผลิตค่ะ อ้อ! มีวันที่ผลิตและวันสิ้นอายุของยาบอกเช่นกันค่ะ

เปิดฝามาก็จะเจอน้องๆ หน้าตาแบบนี้ มีกลิ่นน้อยมาก หรือเรียกว่าแทบจะไม่มีกลิ่นค่ะ

ตัวยาเป็นไซส์มาตรฐาน ทานง่าย ไม่มีปัญหาเรื่องกลิ่นค่ะ

📋 รายละเอียดผลิตภัณฑ์ Vistra Bio-C

• ขนาดบรรจุ: 30 เม็ด ราคา 225 บาท (ราคาต่อเม็ด 7.5 บาท)
• บรรจุภัณฑ์: ขวดแก้วสีชา ไม่ทึบแสง หุ้มซีลพลาสติก ฝาขวดแบบเกลียวหมุน ปิดได้แน่นสนิท (⚠️ ข้อควรรู้: วิตามินซี ไม่ทนต่อความร้อนและแสงแดด ควรบรรจุในขวดหรือแผงทึบที่มองไม่เห็นตัวยาเท่านั้น)
• ลักษณะเม็ด: วิตามิน ซี แบบอัดเม็ด
• ปริมาณสารสำคัญ:

 

💊→ วิตามิน ซี 1000 mg

💊→ (จากแอสคอร์บิค แอซิด 400 mg)

💊→ โซเดียมแอสคาร์เบต 350 mg (เทียบเท่ากับแอสคอร์บิค แอซิด 300 mg)

💊→ แคลเซียมแอสคอร์เบต 400 mg (เทียบเท่ากับแอสคอร์บิค แอซิด 300 mg)

💊→ ซิตรัสไบโอฟลาโวนอยด์ 50 mg

💊→ สารสกัดจากดอกโซโฟราจาโปนิกา 50 mg

💊→ เฮสเพอริดิน 50 mg

💊→ สารสกัดจากโรสฮิพ 62.5 mg

💊→ สารสกัดจากอะวิโรล่า 12.5 mg

 

• ความน่าเชื่อถือ: ผลิตโดยบริษัท ชุมชน เภสัชกรรม จำกัด (มหาชน) ซึ่งผลิตและจำหน่ายเวชภัณฑ์คุณภาพระดับสากล ให้กับร้านยาของเภสัชชุมชน โรงพยาบาล และองค์การเภสัชกรรม โดยมีนโยบายหลักที่สำคัญ คือ การผลิตยา “ยาดี คุณภาพมาตรฐาน”
• ความคุ้มค่า: 4/5 ดาว ⭐⭐⭐⭐
• ความคิดเห็น:

✔️ ปริมาณสารสำคัญเหมาะสมกับสถานการณ์การดูแลสุขภาพในบ้านเรา

✔️ ผลิตจากโรงงานผลิตยาที่ได้มาตรฐานระดับสากล

❌ ขวดบรรจุภัณฑ์มองเห็นวิตามิน ซีได้ ไม่ทึบแสง อาจเป็นเหตุให้ประสิทธิภาพเสื่อมลง

❌ ราคาเฉลี่ยต่อเม็ดค่อนข้างแพง

 

 

อันดับ 6 🟠 DHC Vitamin C 60 Days

มาถึงคิว วิตามิน ซี ชื่อดัง ส่งตรงจากเกาะญี่ปุ่นกันบ้าง เชื่อว่าหลายๆ คนคุ้นหน้าคุ้นตาน้องคนนี้กันดีเพราะมีภาษีความเป็น DHC มาสร้างความน่าสนใจ

เสียดายตรงที่ฉลากเป็นภาษาญี่ปุ่นทั้งหมดเลยค่ะ สำหรับคนที่ชอบสืบเสาะข้อมูลสินค้าก่อนบริโภคอย่างเราถือว่าเป็นจุดบอดเลย อดรู้ข้อมูลที่ผู้บริโภคควรทราบซะงั้น 😢 แต่ยังไงเราก็ต้องไปต่อนะคะ ว่าแล้วก็ไปดูลักษณะตัวยากันเลยค่ะ

 

เมื่อเปิดถุงทึบออกมาก็จะเจอตัวยาเยอะแยะเบอร์นี้ ลองค้นหาจากหลายๆ ที่มา พบว่าในถุงมียาทั้งหมด 60 เม็ดค่ะ

ตัววิตามินซีของ DHC จะมาในรูปแคปซูล ซึ่งมีคำว่า DHC อยู่ด้วย อย่างไรก็ดี ด้วยความที่สินค้าตัวนี้ส่วนใหญ่มักจะมาจากร้านหิ้วเสียมาก ถ้าเพื่อนๆ ซื้ออย่างไม่ระมัดระวัง ก็อาจจะเจอแกะ แบะ แบะ 🐑 ก๊อปปี้มาเหมือนเปี๊ยบได้เหมือนกันค่ะ

 

📋 รายละเอียดผลิตภัณฑ์ DHC Vitamin C 60 Days

• ขนาดบรรจุ: 120 เม็ด ราคา 114 บาท (ราคาต่อเม็ด 0.95 บาท)
• บรรจุภัณฑ์: ซองซิปพลาสติก ทึบแสง
• ลักษณะเม็ด: วิตามินซี แบบแคปซูล
• ปริมาณสารสำคัญ:

 

💊→ ไม่ทราบข้อมูล เนื่องจากฉลากบรรจุภัณฑ์เป็นภาษาญี่ปุ่นทั้งหมด

• ความน่าเชื่อถือ: ผลิตโดยบริษัท DHC Corporation ผู้ผลิต-จำหน่ายเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพชื่อดัง เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในประเทศญี่ปุ่น
• ความคุ้มค่า: 3/5 ดาว ⭐⭐⭐
• ความคิดเห็น:

✔️ ผลิตจากโรงงานผลิตยาที่ได้มาตรฐานระดับสากล

❌ บรรจุภัณฑ์มีแต่ภาษาญี่ปุ่น ไม่มีภาษาอังกฤษ จึงไม่อาจทราบได้ว่ามีปริมาณสารสำคัญอะไรบ้าง

❌ วิตามิน ซี ต้องนำเข้าเท่านั้น จึงเสี่ยงต่อการถูกย้อมแมวขายของปลอม

 

 

อันดับ 7 🟠 Hicee Vitamin C

 

ยะฮู้ววว มาถึงน้องวิตามิน ซี คนสุดท้ายและท้ายสุดของเรากันแล้วค่ะ น้องคนนี้หน้าตาแปลกกว่าเพื่อนๆ อยู่สักหน่อย เป็นหลอดยาอยู่คนเดียวเลยค่ะ

ส่วนประกอบและข้อมูลบนฉลากก็จะหน้าตาประมาณนี้ บ่งบอกขนาดและวิธีใช้ วิธีเก็บรักษา รวมถึงผู้ผลิตไว้ชัดเจนค่ะ

เปิดฝามาจะเจอน้องวิตามินซีหน้าตาแบบนี้ แอบตินิดนึงตรงที่ฝาแข็งแรงดี แต่บางทีอาจแข็งจนเปิดยากไปหน่อยหรือเปล่าหรืออาจเป็นที่เราแรงน้อยเองก็ได้มั้งคะ 😅

น้องเค้าก็จะอ้วนๆ แบนๆ ประมาณนี้ค่ะ แค่อมยาให้ละลายในปากอย่างช้าๆ ตามปกติให้วันละ 1-2 เม็ด ก็โอเคแล้วค่ะ อย่าลืมเลื่อนลงไปดูข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์อีกนิดนะคะ

📋 รายละเอียดผลิตภัณฑ์ Hicee Vitamin C

• ขนาดบรรจุ: 15 เม็ด ราคา 69 บาท (ราคาต่อเม็ด 4.6 บาท)
• บรรจุภัณฑ์: หลอดยาทึบแสง ไม่มีซีลห่อหุ้มปากขวด ฝาเปิด-ปิดแบบสูญญากาศ ปิดได้แน่นสนิท
• ลักษณะเม็ด: วิตามินซี แบบเม็ดอม
• ปริมาณสารสำคัญ:

 

💊→ วิตามิน ซี 250.0 mg

💊→ โซเดียมแอสเคอร์เบท 281.2 mg (ปริมาณเทียบเท่ากับวิตามิน ซี 250.0 mg)

 

• ความน่าเชื่อถือ: ผลิตโดยบริษัท อินเตอร์ไทย ฟาร์มาซูติเคิ้ล แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด ผู้ผลิตยารักษาโรค และเคมีภัณฑ์ที่ใช้รักษาโรค
• ความคุ้มค่า: 3/5 ดาว ⭐⭐⭐
• ความคิดเห็น:

✔️ ผลิตจากโรงงานผลิตยาที่ได้มาตรฐาน

✔️ ขวดบรรจุภัณฑ์ทึบแสง มองไม่เห็นตัวยา

❌ ปริมาณสารสำคัญค่อนข้างน้อย เมื่อวัดจากสถานการณ์การดูแลสุขภาพในบ้านเรา

❌ ฝาค่อนข้างแข็ง เปิดยากพอสมควร

❌ หากปิดฝาไม่สนิท อาจะทำให้วิตามินซีเสื่อสลายได้

❌ เนื่องจากมีรสหวาน อมนานๆ อาจทำให้ฟันผุได้

 

 

จบครบถ้วนเป็นที่เรียบร้อยแล้วนะคะ สำหรับมหากาพย์ รีวิว 7 วิตามิน ซี ยี่ห้อไหนดี เสริมภูมิคุ้มกัน ปี 2022 หวังเป็นอย่างยิ่งว่ารีวิวนี้จะช่วยให้เพื่อนๆ ตัดสินใจเลือกวิตามิน ซี 1000 mg ได้ง่ายยิ่งขึ้น แม้ว่าวิตามิน ซีที่วางขายตามท้องตลาดทุกวันนี้จะมีโปรแรง ลด แลก แจก แถมยั่วๆ ก็ตาม ต้องห้ามใจไว้ก่อน

 

 

อย่าลืมว่า สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับการเลือกซื้อวิตามิน ซี ไม่ใช่ราคาถูกเท่านั้น แต่ต้องเช็กเรื่องการผลิตที่ได้มาตรฐาน การระบุสถานที่ผลิตที่ชัดเจน มีวันเดือนปีที่ผลิตและวันที่ยาสิ้นอายุระบุเขียนไว้อย่างเห็นได้ชัด รวมถึงดูบรรจุภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานด้วยนะคะ ถ้าเพื่อนๆ อยากให้ประสิทธิภาพคงทน ควรเลือกซื้อวิตามิน ซีที่บรรจุในขวดทึบไว้ก่อนเลยค่ะ ถึงจะคุ้ม!

 

ข้อมูลอ้างอิง

Vitamin C and Immune Function. 2017; Nov:39(11).

Journal of biological regulators and homeostatic agents. (2013); Vol. 27, no. 2, 291-295

Acerola, an untapped functional superfruit: a review on latest frontiers

12 อันดับวิตามินซียอดนิยม & คู่มือการเลือกซื้อวิตามินซี 

รู้จักชนิดวิตามินซีและการทานที่ถูกต้อง

รีวิววิตามินซีปริมาณสูง ดูแลสุขภาพตั้งแต่วันนี้ เลือกวิตามินซีอย่างไร ให้ได้ประโยชน์สูงสุด

มาทำความรู้จักโควิดกลายพันธุ์ โดยเฉพาะสายพันธุ์เดลต้า ตัวที่แกร่งที่สุดและแพร่เชื้อได้ไว้ที่สุดในตอนนี้