ฤกษ์งามยามดีสำคัญไฉนในงานแต่ง!! 8 สิ่งควรรู้เกี่ยวกับ “ฤกษ์แต่งงาน”

1. ฤกษ์สะดวกไม่จำเป็นต้องไม่ดี

ขึ้นชื่อว่าความเชื่อแล้วนั้นแทบจะฝังอยู่ในทุกอณูของคนไทย ซึ่งนั่นรวมไปถึงความเชื่อเรื่องของฤกษ์ว่าดูฤกษ์ต้องถามผู้ใหญ่ อย่าเอาแต่ฤกษ์สะดวก ซึ่งในความเป็นจริงแล้วนั้นฤกษ์สะดวกไม่จำเป็นต้องไม่ดีเสมอไป ดังนั้นหากคุณมีฤกษ์สะดวกอยู่ในมือ จงใช้มันถามผู้ใหญ่ พระอาจารย์ หรือซินแสที่เคารพนับถือว่าใช้ได้หรือไม่ เพราะถ้าฤกษ์ไม่สะดวก ก็ไม่นับเป็นฤกษ์งามยามดีหรอกค่ะ

2. ปีชงก็แต่งได้

เรื่องนี้ลูกหลานคนจีนน่าจะคุ้นเคยกันดี เพราะทุกปีก็มักจะมีการแก้ชงกันอยู่ประจำ ซึ่งถ้าหากมันประจวบเหมาะพอดีกับปีที่คุณแต่งงานดันตรงกับปีชง ก็ไม่ต้องวุ่นวายใจไปเพราะชงได้ก็แก้ได้ อีกอย่างที่ควรทำคือ เช็กให้ดีว่าปีเกิดคุณชงจริง ๆ ในปีนั้น ไม่ใช่แค่เห็นปีชงเป็นปีมะเส็งก็คือชงแล้ว เพราะหากปีเกิดคุณไม่ได้ชงร้อยเปอร์เซ็นคุณต้องเช็กปีพ.ศ. ที่เกิดร่วมด้วย

3. ฤกษ์ดีควรปรึกษาผู้ใหญ่…ให้ดีควรเป็นฤกษ์ดีทั้งวัน

อันนี้ไม่ใช่ว่าจะต้องตามใจหรืออะไรกัน แต่เป็นเพราะงานแต่งไม่ได้เชิญแค่ญาติเราเพื่อนเรา ดังนั้นปรึกษาผู้ใหญ่ด้วยก็จะทำให้วางแผนได้ง่ายขึ้น ถ้าจะให้ดีฤกษ์แต่งควรเป็นฤกษ์ดีที่ใช้ได้ทั้งวัน ในสมัยก่อนฤกษ์ดีจะมีเวลานาทีกำกับไว้ด้วย แต่สมัยนี้อาจจะเคร่งครัดขนาดนั้นได้ยาก ดังนั้นฤกษ์ดีทั้งวันจึงช่วยได้

4. หาไว้หลาย ๆ ฤกษ์

อย่างที่บอกว่าสมัยนี้จะให้อะไรเป๊ะ ๆ ก็ดูจะควบคุมได้ยาก ฤกษ์ดีของเราอาจจะไม่สะดวกสำหรับคนอื่น หรือมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น ถ้าจะให้ดีควรหาฤกษ์ดีไว้หลาย ๆ ฤกษ์เพื่อสะดวกในการเตรียมงานจะดีกว่า อีกอย่างคือฤกษ์ดีก็มักจะอิงตามวันมงคลในปฏิทิน ดังนั้นหากงานคุณเกิดไปจัดชนกับงานอื่นแล้วมีปัญหาเรื่องสถานที่จะได้มีฤกษ์อื่นไว้พิจารณา

5. ฤกษ์ปลายปีไม่ใช่ว่าจะดีที่สุด

อย่างที่เราเห็นกันว่าปลายปีทีแต่งงานกันให้พรึ่บ นั้นก็เพราะปลายปีเป็นช่วง high season ของทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวหรือแต่งงานจะมีโอกาสโดนอัปราคาได้ทั้งสิ้น ดังนั้นหากคุณไม่ได้เตรียมงานไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ การเลี่ยงฤกษ์ปลายปีแล้วพิจารณาฤกษ์อื่นแทนก็น่าจะดีกว่า

6. มีฤกษ์แต่งก็มีฤกษ์หมั้น

มีหลายคู่ที่มักจะรวบพิธีการของงานไว้ในวันเดียวเพราะยึดติดกับฤกษ์แต่ง ซึ่งนั่นไม่ใช่เป็นสิ่งที่ไม่ดี แต่อาจจะทำให้คุณเหนื่อยเกินไปหรือจัดการได้ยาก การแบ่งวันแบ่งฤกษ์เพื่อใช้จัดงานแต่งและงานหมั้น (สวมแหวน) ก็ดูจะเป็นทางเลือกที่เหนื่อยน้อยหน่อยนะ

7. ฤกษ์ชนวันพระเลี่ยงได้ก็ดี

ความเชื่อของคนโบราณคือ การแต่งงานถือเป็นกิเลสไม่ควรแต่งในวันพระ เหตุผลอีกข้อก็คือวันพระคือวันที่พระสงฆ์อาจจะได้รับกิจนิมนต์เป็นจำนวนมากหรือต้องอยู่ทำวัตร ดังนั้นจึงไม่ใช่แค่เรื่องของกิเลสแต่เป็นเรื่องของการจัดการที่เกี่ยวกับการต้องนิมนต์พระสงฆ์มาทำพิธี ซึ่งอาจจะกลายเป็นเรื่องยาก

8. ฤกษ์ยามคือกุศโลบาย

ทั้งนี้ทั้งนั้นแม้การหาฤกษ์ยามจะเป็นเรื่องที่ดี แต่สุดท้ายแล้วทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับตัวเรา ฤกษ์ดีเป็นเพียงกุศโลบายอย่างหนึ่งที่ใช้ให้กำลังใจคู่บ่าว-สาวที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่ในฐานะสามี-ภรรยา ให้ได้เริ่มในวันเวลาที่ดี ให้บ่าว-สาวได้รู้สึกเป็นมงคล แต่สุดท้ายแล้วฤกษ์ที่ดีก็คือฤกษ์ที่เหมาะสมที่สุดกับทุก ๆ ฝ่ายนั่นเอง

กดติดตาม ADD Line @UndubZapp