สำหรับสาวๆ คนไหนที่มีปัญหาพุงป่องแบบไม่ทราบสาเหตุ ทั้งๆ ที่ไม่ได้กินเยอะมาก แต่หน้าท้องกลับดูบวมราวกับกินช้างเข้าไปทั้งตัว แถมเมื่อชั่งน้ำหนักก็พบว่าตัวเลขไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิมเท่าไหร่นัก ถ้าเหตุการณ์ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นพร้อมกับอาการเรอมากกว่าปกติด้วยล่ะก็ UndubZapp ฟันธงได้เลยค่ะว่าคุณกำลังมีอาการท้องอืดอย่างแน่นอน
ความจริงท้องอืดก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าตกใจ เพราะผู้หญิงกว่า 70% ก็มักประสบปัญหาอาการท้องอืดด้วยกันทั้งนั้น โดยเฉพาะในช่วงที่ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนสูงกว่าปกติ ซึ่งจะเกิดขึ้นในทุกๆ เดือน โดยฮอร์โมนชนิดนี้จะทำให้ร่างกายสามารถย่อยอาหารได้ช้าลง และส่งผลให้เกิดแก๊สในกระเพาะมากขึ้น แต่ไม่ต้องกังวลไปค่ะ เพราะ UndubZapp ยังมีเทคนิคแก้เกมง่ายๆ ที่จะช่วยให้คุณสามารถเจาะแก๊สออกจากพุงและช่วยให้หน้าท้องกลับไปแบนราบเหมือนเดิมได้อย่างแน่นอน
1. เพิ่มโปรตีนและโพแทสเซียม
อาหารที่มีโพแทสเซียมสูงอย่างกล้วย แคนตาลูป มะเขือเทศ และแอสพารากัส ขึ้นชื่ออย่างมากในเรื่องการปรับสมดุลของระบบการย่อยอาหาร และช่วยลดแก๊สในกระเพาะ ขณะที่อาหารที่มีโปรตีนสูงอย่างปลาแซลมอนและถั่วชนิดต่างๆ ก็มีส่วนช่วยลดฮอร์โมนที่อาจทำให้เกิดอาการท้องอืดได้ อย่างไรก็ตาม ควรบริโภคเนื้อสัตว์ที่ย่อยง่ายอย่างเนื้อปลาหรือเต้าหู้ เพราะยิ่งย่อยอาหารได้เร็วเท่าไหร่ ก็ยิ่งเกิดแก๊สน้อยลงเท่านั้นค่ะ
2. หลีกเลี่ยงอาหารเพิ่มแก๊ส
ร่างกายของแต่ละคนมีการตอบสนองต่ออาหารแต่ละอย่างไม่เหมือนกัน ดังนั้น สาวๆ ทุกคนควรจะหมั่นสังเกตตัวเองด้วย ว่าการกินอาหารชนิดใดจะทำให้เกิดอาการท้องอืดมากกว่าปกติ โดยบางคนอาจท้องอืดได้จากการทานผักบางประเภท เช่น บร็อคโคลี ดอกกะหล่ำ หรือกะหล่ำปลี ขณะที่บางคนก็ท้องอืดได้เพราะนมวัวเนื่องจากกระเพาะไม่สามารถย่อยน้ำตาลแลคโตสได้ ซึ่งเมื่อรู้แล้วก็ควรพยายามเลี่ยงให้มากที่สุดค่ะ
3. ออกกำลังกายไล่ลม
สำหรับใครที่กำลังประสบปัญหาท้องอืด การออกกำลังกายอาจจะเป็นสิ่งสุดท้ายที่อยากจะทำ แต่ความจริงแล้วการออกกำลังกายนั้นมีประโยชน์ในการช่วยลดแก๊สในกระเพาะอาหาร รวมทั้งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการย่อยให้ดียิ่งขึ้น หากใครที่ไม่อยากออกกำลังกายหนักๆ อาจหันไปเล่นโยคะ ซึ่งมีประโยชน์อย่างมากในการปรับสมดุลต่างๆ ของร่างกาย รวมทั้งระบบทางเดินอาหารด้วยค่ะ
4. ลดแอลกอฮอล์และคาเฟอีน
นอกจากอาหารประเภทแอลกอฮอล์และคาเฟอีนจะไม่เหมาะกับคนที่เป็นโรคกระเพาะแล้ว ยังถือเป็นเครื่องดื่มที่ทำให้เกิดอาการท้องอืดได้อีกด้วย เพราะอาหารประเภทดังกล่าวมักทำให้ลำไส้เกิดการระคายเคืองและทำให้เกิดแก๊สในกระเพาะตามมาได้ค่ะ
Advertisements
5. ลดการบริโภคน้ำตาล
การรับประทานน้ำตาล ไม่ว่าจะเป็นจากขนมหวานหรือเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลก็ล้วนแล้วแต่ทำให้อาการท้องอืดกำเริบหนักขึ้น หากสาวๆ คนไหนรู้สึกกระหายน้ำหวานหรือของหวาน ควรหันมาดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว หรือหันไปดื่มชาซึ่งมีสรรพคุณในการช่วยลดแก๊สและลดความอยากทานของหวานได้ด้วยค่ะ
6. ระวังยาฆ่าเชื้อบางประเภท
ช่วงที่ไม่สบายจนคุณหมอต้องจ่ายยาฆ่าเชื้อมาให้รับประทานนั้น คุณจำเป็นต้องแจ้งคุณหมอด้วยว่ากำลังมีอาการท้องอืด เพราะยาฆ่าเชื้อบางประเภทมีผลข้างเคียงทำให้เกิดแก๊สในกระเพาะมากขึ้นๆ โดยคุณหมอสามารถเลี่ยงไปจ่ายยาที่ส่งผลกระทบต่อแก๊สในกระเพาะน้อยลงได้ค่ะ
7. อย่านอนมากเกินไป
ถึงแม้การนอนหลับพักผ่อนจะดีต่อร่างกาย แต่การนอนมากเกินไปและเคลื่อนไหวร่างกายน้อยจะทำให้มีแก๊สค้างอยู่ในกระเพาะมาก แถมยังทำให้ระบบการย่อยอาหารทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร ดังนั้นจึงควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอประมาณวันละ 8 ชั่วโมง และเคลื่อนไหวร่างกายให้มากขึ้นจะช่วยบรรเทาอาการท้องอืดได้ค่ะ
แซ่บกันต่อ…
>> แสบคอ ร้อนกลางอก!! งด 7 อาหารฮิต กระตุ้น “กรดไหลย้อน”
>> 8 เคล็ดลับการกิน “ให้อายุยืน” จากปากผู้สูงวัยสุขภาพดี อายุ 100 ปี
Advertisements