5 วิธีแก้ “นอนกรน” หยุดอาการง่ายๆ แค่ทำแค่นี้เอง

อาการของโรคนอนกรนเป็นยังไง?

การนอนกรนนั้นสามารถแบ่งอาการออกได้เป็น 2 ชนิด

1. ชนิดไม่อันตราย คือ การนอนกรนแบบธรรมดา หรือเป็นการกรนที่มีเสียงกรนปกติ ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้กับคนทั่วไป

2. ชนิดอันตราย คือ การนอนกรนที่มีการหยุดหายใจร่วมด้วย และมีเสียงกรนที่ดังถึงดังมาก ซึ่งการกรนในชนิดนี้จะส่งผลเสียต่อสุขภาพอย่างไม่คาดคิด

นอนกรนเกิดจากอะไร?

สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการกรนนั้นอาจมีปัจจัยร่วมที่เกี่ยวข้องได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการพักผ่อนน้อยหรือนอนหลับไม่เพียงพอ ร่างกายไม่สดชื่นและอ่อนเพลีย หรือเมื่อมีอายุมากขึ้นก็จะยิ่งพบอาการอย่างเห็นได้ชัดมากขึ้น โดยเฉพาะในเพศชายด้วยแล้ว จะมีอาการกรนมากกว่าในเพศหญิง รวมไปถึงในคนที่อ้วนก็จะมีไขมันสะสมบริเวณลำคอมากกว่าคนผอม ซึ่งทำให้ช่องทางเดินหายใจนั้นแคบลงเข้าไปอีก ที่สำคัญ! ใครที่ติดเหล้า เบียร์ บุหรี่ ยานอนหลับ ถือเป็นตัวส่งเสริมทำให้อาการกรนยิ่งรุนแรงเพิ่มขึ้น และอาจทำให้เกิดความเสี่ยงต่อภาวะหัวใจอุดตัน และยังส่งผลให้เกิดภาวะการหยุดหายใจในที่สุด

แล้วจะแก้อาการนอนกรนยังไงดี?

มาดู 5 วิธีนี้กันเลยดีกว่า!

1. เปลี่ยนท่านอนช่วยได้

หลายคนอาจจะรู้มาว่า “ถ้านอนกรนให้ปรับเป็นท่านอนตะแคงแล้วจะหาย” ก็ถือว่าเป็นวิธีแก้อาการแบบเฉพาะหน้า ที่ทำได้ง่ายๆ แต่อาจไม่ได้ผลในระยะยาวมากนัก การเปลี่ยนท่านอนจากนอนหงายเป็นท่านอนตะแคง จะช่วยทำให้การกรนน้อยลงได้ เพราะท่านอนหงายนั้นลิ้นและลิ้นไก่จะหย่อนเอียงไปทางด้านหลังของลำคอ และไปอุดกั้นบริเวณทางเดินหายใจ จนทำให้เกิดอาการกรนนั่นเอง พอเปลี่ยนเป็นนอนตะแคง ลิ้นก็จะไม่ไปอุดกระจุกอยู่ที่ลำคอ แต่อาจเป็นเรื่องยากที่จะควบคุมตัวเองให้นอนตะแคงได้ทั้งคืนเมื่ออยู่ในภาวะหลับสนิท

2. เลิกอ้วน งดเหล้า หยุดบุหรี่

น้ำหนักตัวที่มากเกินไปจนรูปร่างอ้วนนั้น จะทำให้มีอาการกรนเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากไขมัน จำนวนมากบริเวณรอบลำคอจะไปอุดกั้นหลอดลมทำให้หายใจติดขัด โดยเฉพาะกับคนที่สูบบุหรี่ หรือดื่มเหล้าเป็นประจำ จะทำให้ระบบการหายใจอยู่ในภาวะผิดปกติ และแอลกอฮอล์ก็มีฤทธิ์ไปกดประสาทส่วนกลาง ทำให้กล้ามเนื้อทางเดินหายใจเกิดการคลายตัว  เกิดการอุดกั้นทางเดินหายใจส่งผลให้เกิดการกรนในที่สุด

3. ใช้เครื่องช่วยหายใจ

เป็นการรักษาที่ได้ผลดี แต่ราคาค่อนข้างแพงและอาจยุ่งยากในการใช้สำหรับคนขี้รำคาญ เพราะต้องใส่หน้ากากระหว่างการนอนหลับ แต่เครื่องช่วยหายใจหรือ CPAP นี้ก็ถือว่าช่วยแก้อาการนอนกรนในผู้ที่เป็นในระดับรุนแรงและมีการกรนร่วมกับหยุดหายใจขณะหลับได้ดี แต่ผู้ใช้ก็จะมีผลข้างเคียงคือ คัดจมูก ปากแห้ง หรือคอแห้งที่จะตามมา

4. รักษาด้วยการผ่าตัด

วิธีนี้เหมาะกับคนที่มีอาการกรนรุนแรงชนิดอันตราย หรือมีอาการกรนร่วมกับหยุดหายใจในขณะหลับด้วย โดยการผ่าตัดนั้นมีอยู่หลายรูปแบบด้วยกัน ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้วินิจฉัยตามอาการและการรักษา เช่น การผ่าตัดแก้จมูกคด การผ่าตัดเพดานปาก รวมไปถึงการผ่าตัดด้านหลังลำคอด้านใน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การรักษาด้วยวิธีนี้อาจมีภาวะแทรกซ้อนตามมา ซึ่งต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์เพื่อติดตามอาการอย่างสม่ำเสมอ

5. ใช้วิธีธรรมชาติ หรืออาหารเสริมเป็นตัวช่วย

หลายคนที่คิดว่าวิธีข้างต้นอาจจะดูยากเกินไป อาจจะลองใช้วิธี รับประทานอาหารเสริม ซึ่งควรเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ และมีงานวิจัยรองรับในแง่ของความปลอดภัยเท่านั้น ซึ่งวิธีนี้สามารถช่วยแก้ปัญหา และเห็นผลดีในผู้ที่มีอาการนอนกรน ส่วนอาหารเสริมที่มีส่วนประกอบมาจากสารสกัดจากธรรมชาติ ที่มีสรรพคุณช่วยรักษาโรคนอนกรน และเพิ่มการนอนหลับได้ เช่น

–  เห็ดถั่งเช่าสีทอง : มีสารออกฤทธิ์สำคัญที่เรียกว่า สารคอร์ไดซิปิน  (Cordycepin ) ช่วยในการปรับสมดุลและฟื้นฟูการทำงานของร่างกาย สามารถเพิ่มการนอนหลับในช่วงหลับธรรมดา ( NON-RAPID EYE MOVEMENT SLEEP) นอกจากนั้นยังช่วยให้เซลล์เพิ่มการดูดซึมออกซิเจนมาใช้งานได้มากขึ้น

–  ทริปโตเฟน (Tryptophan) : ช่วยเพิ่มคุณภาพการนอนหลับ โดยช่วยในการสร้าง สารเซโรโทนิน (Serotonin) ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทและเป็นหนึ่งในสารที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการนอนหลับของร่างกาย

–  L-theanine : เป็นกรดอะมิโนที่สกัดจากชา  ทำให้หลับลึกและหลับสนิทตลอดการนอน

–  วิตามินบี 3 วิตามินบี 6 : ช่วยในการสร้างสารสื่อประสาททำให้ร่างกายผ่อนคลาย และสงบ และมีบทบาทในขบวนการสร้างพลังงานให้กับร่างกาย ช่วยในการทำงานของระบบประสาท

–  แมกนีเซียม : ทำให้เกิดการผ่อนคลายและสงบ ลดอาการปวดและความถี่ของการเกิดไมเกรน

ลองใช้วิธีข้างต้นดู เพื่อแก้อาการนอนกรนที่คุณหรือคนใกล้ตัวกำลังประสบอยู่ ก็จะทำให้ผู้มีอาการกรนกลับมานอนหลับสบายและมีความสุขกับการนอนมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะจะทำให้มีสุขภาพที่ดีกว่าเดิม และทำให้คนที่นอนข้างคุณนอนยิ้มได้อีกครั้ง

สำหรับคนที่มีอาการนอนกรนและต้องการคำแนะนำในการแก้อาการ Sleep Now ก็มีข้อมูลดีๆ ที่จะช่วยให้คุณหายจากอาการกรน และยังช่วยให้คุณนอนหลับได้สบายยิ่งขึ้นในทุกวัน

ปรึกษาปัญหาการนอนกรน คลิกที่นี่!

Source: Sleep Now