UndubZapp ขอแนะนำวิธีแบ่งเบาภาระการทำงานของตับ นั่นก็คือควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ งดหรือลดความถี่ในการดื่มแอลกอฮอล์ ควบคุมปริมาณการทานอาหารรสจัดและของหวาน ตรวจสุขภาพเป็นประจำ นอกเหนือจากนี้ แนะนำให้ทานอาหารมีประโยชน์ ทานอาหารบำรุงตับเป็นประจำ ปรับพฤติกรรมการกินให้ตับแข็งแรงอีกทาง
1.น้ำเปล่า
ดังที่ได้กล่าวไปในข้างต้นว่า หนึ่งในหน้าที่ของตับ คือ กำจัดของของเสียและสารพิษออกจากร่างกาย ดังนั้น น้ำเปล่าจากแหล่งน้ำที่สะอาดปลอดภัยจึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในการบำรุงตับ ถ้าร่างกายขาดน้ำ หรือได้รับน้ำดื่มไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย จะส่งผลให้ตับเสียความชุ่มชื้น และทำให้ฟันเฟืองในการทำงานของตับทำงานได้ไม่เต็มที่ เสี่ยงต่อการเจ็บป่วยตามมา
2.ชาเขียว
ผลจากการศึกษาทดลองที่ให้ผู้ป่วยโรคไขมันพอกตับ (ที่ไม่ได้มีสาเหตุจากแอลกอฮอล์) ดื่มชาเขียวเป็นเวลา 12 สัปดาห์ พบว่า “สารคาเทชิน” สารต้านอนุมูลอิสระชนิดหนึ่งซึ่งพบมากในชาเขียว ช่วยลดการสะสมไขมันอย่างมีนัยสำคัญ อีกการศึกษาหนึ่งพบว่า ผู้ที่ดื่มชาเขียวมีแนวโน้มเกิดโรคมะเร็งตับน้อยกว่าผู้ที่ไม่ดื่มชาเขียว ถึงอย่างไรก็ควรดื่มในปริมาณที่เหมาะสม
3.อาหารประเภทโปรตีน
Advertisements
“โปรตีน” ที่ได้จากเนื้อสัตว์ เป็นสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อตับ เนื้อสัตว์ทุกชนิดล้วนมีกรดอะมิโน ซึ่งเป็นส่วนประกอบของโปรตีนด้วยกันทั้งสิ้น แต่คำว่าโปรตีนจากเนื้อสัตว์ในที่นี้ หมายถึงโปรตีนที่มาจากเนื้อสัตว์ที่ปรุงสุก สะอาด ไม่ใช่เนื้อสัตว์สุกๆ ดิบๆ ที่ไม่ควรรับประทาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อาหารทะเลสุกๆ ดิบๆ เพราะอาจมีโลหะหนักปนเปื้อน และส่งผลเสียต่อตับ
4.อาหารที่มีเส้นใยอาหารสูง
การรับประทานอาหารที่มี “เส้นใยอาหาร” หรือ “ไฟเบอร์” สูงมีส่วนช่วยในการทำงานของตับโดยตรง เนื่องจากไฟเบอร์เหล่านี้มีส่วนช่วยในการลดการดูดซึมไขมันในร่างกาย ทำให้ไม่เกิดภาวะไขมันพอกตับ ตับจึงสามารถผลักของเสียออกจากร่างกายได้ง่ายขึ้น อาหารที่มีเส้นใยอาหารสูงมีหลายชนิด ได้แก่ ข้าวไม่ขัดสีหรือข้าวขัดสีน้อย ธัญพืช ถั่วเขียว ถั่วแดง ผัก ผลไม้ เป็นต้น
5. อาหารที่อุดมไปด้วยโอเมก้า-3
กรดไขมันชนิด “โอเมก้า-3” เป็นกรดไขมันดีที่มีประโยชน์ต่อการทำงานของร่างกายในหลายๆ ด้าน แน่นอนว่าเป็นกรดไขมันที่ส่งผลดีต่อการทำงานของตับเช่นกัน กรดไขมันโอเมก้า-3 เหล่านี้ มีส่วนช่วยในการลดอาการอักเสบของเซลล์ตับ ลดปริมาณไขมันที่ตับ ช่วยให้อินซูลินทำงานได้ดีขึ้น อาหารที่อุดมไปด้วยโอเมก้า-3 ได้แก่ เนื้อปลา น้ำมันปลา น้ำมันถั่วเหลือง เป็นต้น
Advertisements